GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
ผลการค้นหา : "Mafia: Definitive Edition"
รีวิว Mafia: Definitive Edition จุดเริ่มต้นของตำนานแห่งเกมมาเฟียอิตาลี
เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากๆ ในเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา เพราะว่าทาง 2K Games ได้ประกาศเปิดตัวโปรเจกต์สุดน่าสนใจนั่นคือ Mafia: Definitive Edition ที่ได้นำเอาเกมภาคแรกของซีรีส์นี้อย่าง Mafia: The City of Lost Heaven มายกเครื่องอัพเกรดกราฟิกใหม่ทั้งหมด โดยผู้พัฒนาเองก็ได้เคลมว่าพวกเขาสร้างเมืองนี้ใหม่ตั้งแต่ภาคพื้นดินเลยทีเดียว จนมันทำให้หลายๆ คนต่างสนใจและรอเล่นเกมนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งพวกเรา GameFever TH ก็ได้มีโอกาสในการเล่นเกมนี้จนจบแล้วและจะมารีวิวเกมนี้ให้ทุกท่านได้ทราบกันครับ กราฟิก / การนำเสนอ สิ่งที่ผู้พัฒนาได้บอกเอาไว้ว่าพวกเขานั้นสร้างเมือง Lost Heaven ใหม่ทั้งหมดนั้น ผู้พัฒนาเองไม่ได้ขี้โม้เลยแต่อย่างใด และส่วนตัวค่อนข้างประทับใจเป็นอย่างมาก เพราะผู้พัฒนาได้ดีไซน์เมืองนี้ใหม่เกือบทั้งหมดถึงแม้ว่าจะใช้แบบแปลนจากภาคเดิมในการพัฒนา อย่างที่เรารู้ว่า Mafia: Definitive Edition เกมนี้ได้ถูกสร้างมาจาก Engine ที่เคยใช้ในเกม Mafia III แต่หลังจากที่เคยได้เล่นเกมนี้มาทั้งคู่ต้องบอกเลยว่า Mafia: Definitive Edition ทำภาพได้สวยกว่ามาก เพราะผู้พัฒนาได้ใส่เทคโนโลยี Ray Tracing หรือการสะท้อนเงาวัตถุแบบ Real Time เข้ามา ทำให้บรรยากาศของเกมมีความสมจริงมากยิ่งขึ้น แต่ในด้านกราฟิกก็อาจจะมีปัญหาสำหรับคนที่คอมพิวเตอร์ไม่แรงอยู่เหมือนกัน เพราะว่าฟังชั่น Ray Tracing นี้จะติดมาตลอดกดปิดไม่ได้ โดยตัวผู้เขียนเองได้ใช้คอมพิวเตอร์สเปกกลางๆ อย่าง i5 - 8400 บวกกับการ์ดจอ GTX 1060 6GB ซึ่งมันพอเล่นได้แบบต่ำสุด (ในราวๆ 70 FPS) ซึ่งคาดว่าสเปกคอมพิวเตอร์ราวๆ นี้น่าจะเป็นสเปกต่ำสุดที่ผู้เขียนแนะนำถ้าอยากจะเล่นเกมนี้เพื่อประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมแบบไม่ตกหล่น แต่ข้อดีก็คือถึงแม้ว่าผู้เขียนจะปรับกราฟิกต่ำสุด แต่ก็ยังสามารถเห็นถึงความสวยงามของมัน รวมถึงปัญหาบัคเฟรมเรทตกไม่มีให้เห็นแต่อย่างใด ถือว่าผู้พัฒนาปรับปรุงในส่วนนี้ออกมาได้ดีมาก เนื้อเรื่อง เรื่องราวของซีรีส์ Mafia: Definitive Edition นั้นก็ค่อนข้างที่ทำได้ตรงตามเกมเวอร์ชั่นดั้งเดิมเป็นอย่างมาก กับเรื่องราวของ Tommy Angelo คนขับรถแท็กซี่ที่บังเอิญเข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์ไล่ล่าระหว่างแก๊งมาเฟีย เลยทำให้เขานั้นได้เข้าร่วมแฟมิลีของ Salieri ในที่สุดเพื่อโอกาสในความก้าวหน้าของชีวิต ซึ่งต้องยอมรับตามตรงว่าส่วนตัวผู้เขียนไม่ได้เคยเล่นเกมเวอร์ชั่นดั้งเดิมแบบจริงๆ จังๆ เลยสักครั้ง ไม่ได้สนใจเนื้อเรื่องมันเท่าที่ควรในตอนนั้น ( แถมเล่นไม่จบด้วย ) แต่หลังจากที่ได้ลองเกมนี้จนจบ และเคยเล่นเกมซีรีส์นี้ในทุกภาคก็ต้องบอกว่า Mafia: Definitive Edition ทำเนื้อเรื่องออกมาได้ดีที่สุดจากในมุมมองของผู้เขียนเอง เพราะตัวเกมนำเสนอเรื่องของความสัมพันธ์ สิ่งที่กล้ำกลืนฝืนทนที่จะต้องทำเพื่องาน หรือแม้กระทั่งการนำเสนอเรื่องของสงครามระหว่างแก๊งที่ตัวเกมภาคนี้นำเสนอออกมาได้ดี แต่เนื่องจากที่เกมนี้ ผู้พัฒนาไม่ได้ตกแต่งโครงเรื่องใหม่แต่อย่างใด ทำให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นอาจจะดูรวบรัดตัดจบไวเกินไปหน่อย เพราะในสมัยก่อนตัวเกมลงให้กับเครื่อง PS2 มันอาจจะไม่มีพื้นที่ในการจุเนื้อหาเยอะ เพราะเกมน่าจะเอาไปลงกับกราฟิกหมด ทำให้มันมีการเล่าเรื่องที่ประหลาดๆ หรือทื่อๆ ไปซักนิด ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายอยู่เหมือนกัน เพราะส่วนตัวอยากให้ผู้พัฒนาเพิ่มเติมหรือขยายความเรื่องราวให้มากกว่านี้โครงเรื่องของมันค่อนข้างดีมากๆ เลยทีเดียว เกมเพลย์ เบื่อไหมในเกมเก่าๆ ของซีรีส์ Mafia ที่การขับรถนั้นมันบังคับยากเสียเหลือเกิน และปัญหานี้มันก็เรื้อรังมาในทุกภาค แต่ผิดกับเกม Mafia: Definitive Edition ที่ผู้พัฒนาปรับปรุงระบบการขับรถให้ผู้เล่นได้รับประสบการณ์ได้ดีมากยิ่งขึ้น Lost Heaven ถูกดีไซน์ใหม่ ให้พื้นที่เลนถนนมีความกว้างกว่าเดิมหลายเท่า ทำให้มีพื้นที่ตีวงตอนเลี้ยวรถได้กว้างกว่าเดิม รวมถึงผู้พัฒนายังเพิ่มระบบช่วยบังคับรถที่มันจะคำนวนการเลี้ยวรถให้เราได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งมันส่งผลทำให้เราสามารถเลี้ยวรถด้วยความเร็วๆ 80-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแบบไม่ต้องชะลอรถได้สบายๆ (แต่ถ้าเร็วเกินไปรถก็อาจจะพลิกได้เหมือนกัน) แต่ถ้าใครที่ไม่อยากได้ตัวช่วยขับรถเกมนี้ก็ยังมีตัวเลือกการขับรถแบบสมจริงที่เหมือนกับในภาคก่อนๆ อยู่เช่นเดิม ส่วนในเรื่องเกมเพลย์ก็ต้องบอกเลยว่าตัวเกมก็จะมีระบบการเล่นที่เหมือนกับเกม Open World ทั่วไป ซึ่งมันไม่ได้มีความแปลกใหม่ไปจากเดิมเท่าไร อาจจะมีบางภารกิจหรือตัวเลือกที่น่าสนใจให้เล่นบ้างอย่างเช่นภารกิจหนึ่งที่เราจะต้องเข้าไปปิดปากสาวโสเภณีที่ดันไปรู้ความลับบางอย่างเข้า ซึ่งเราจะต้องค้นหาเองว่าเธอนั้นอยู่ในห้องไหน โดยเราสามารถเดินหาที่ละห้องจนกว่าจะเจอ หรือไม่เราก็อาจจะไปถามกับทางบริกรว่าเธออยู่ตรงไหน หรือจะแอบเข้าไปดูสมุดบัญชีลิสต์งานก็ได้ เพียงแต่ว่าสิ่งที่น่าเสียดายคือเราเองไม่ได้เห็นเกมการเล่นแบบนี้เยอะนัก ส่วนใหญ่ก็จะมีแค่การขับรถไล่ล่าหรือยิงศัตรูเท่านั้น มันเลยทำให้ตัวผู้เขียนเองรู้สึกผิดหวังกับมันอยู่พอสมควร เพราะนอกจากกราฟิกที่สวยงามแล้วนั้นเราแทบไม่ได้เห็นอะไรใหม่เลย แต่ตัวเกมก็ยังมีระบบที่เข้ามาท้าทายผู้เล่นแทนนั่นคือโหมด Classic ที่จะเป็นความยากระดับสูงสุด ผู้เล่นต้องบังคับรถในโหมดดั้งเดิมเท่านั้น Radar ในศัตรูจะไม่ปรากฏ รวมถึงกล่องเพิ่มเลือดก็จะฟื้นฟูได้น้อยกว่าเดิม ซึ่งเราจะต้องทำการฝึกฝน และต้องต่อสู้กับความยากนี้ไปทีละด่าน ซึ่งมันก็สามารถสร้างความท้าทายได้ดี และอีกสิ่งที่น่าผิดหวังอีกเรื่องก็น่าจะเป็นระบบ Open World  ของมันที่ถูกสร้างมาแล้วไม่ได้เกื้อกูลกับเกมเพลย์หลักแต่อย่างใด เพราะในเวลาเล่นโหมดแคมเปญอยู่ การดำเนินเรื่องของเกมนี้จะเหมือนเป็นเกมเนื้อเรื่องที่ใส่องค์ประกอบโลกเปิดมาเท่านั้น เพราะนอกจากการขับรถเล่นในโหมด Free Ride แล้ว เราไม่สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์ใดๆ เกี่ยวกับโลกที่เขาสร้างนอกจากการขับรถเล่นได้เลย ตัวเกมไม่มีระบบค่าเงิน ไม่มีร้านค้าให้เราได้ไปหาซื้อเสื้อใหม่ๆ ใส่ หรือกิจกรรมสนุกๆ ไม่มีเลยจริงๆ !! ในตอนที่จบภารกิจตัวเกมก็ไม่ได้ให้อิสระเราในการขับรถเที่ยวเล่นเลยสักครั้ง แต่จะบังคับให้ขึ้นบทต่อไปและทำภารกิจทันที ส่วนตัวคิดว่านี่น่าจะเป็นข้อเสียหายอันร้ายแรงที่อาจจะทำให้คนวิจารณ์ด้านลบเกี่ยวกับเกม Mafia: Definitive Edition ก็เป็นได้ แต่จากผมเองได้ลองดูราคาของเกมนี้ที่ผู้พัฒนาวางจำหน่ายเพียงแค่ 959 บาท เท่านั้น มันก็ทำให้ตัวผมเองถึงบ้างอ้อทันทีว่า ทำไมพวกเขาถึงตั้งชื่อเกมนี้ว่า Mafia: Definitive Edition เพราะโดยรามแล้วเราจะพูดว่ามันเป็นเกม Remake เต็มรูปแบบก็ไม่ได้ เพราะในด้านเกมเพลย์และโครงสร้างของมันแทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลย แต่จะให้พูดว่า Remastered ก็อาจจะทำได้ดีกว่า เกมนี้เหมือนกับเป็นโปรเจกต์เล็กๆ ที่ผู้พัฒนาทำออกมาเพื่อคั่นเวลาในระหว่างที่พวกเขาเตรียมตัวสร้างโปรเจกต์ใหญ่กว่านี้ก็เป็นได้ สรุป โดยรวมแล้ว Mafia: Definitive Edition นอกจากกราฟิกที่ทำออกมาได้ดีงามแล้วนั้น ตัวระบบเกมเพลย์เองกลับไม่ได้มีอะไรที่แปลกใหม่ไปกว่าเดิมเลย เหมือนเป็นโปรเจกต์คั่นและทดลองในระหว่างการรองานที่ใหญ่กว่านี้ ผู้พัฒนาถึงได้ขายเกมนี้ในราคาที่ถูกกว่าเกม AAA ทั่วไปกว่า 50% แต่ถ้าให้ถามว่าตัวเกมมันโอเคไหม ส่วนตัวก็ยังบอกว่ามันก็ยังเป็นเกมที่สนุกเล่นได้เพลินๆ เพราะเนื้อเรื่องของเกมที่พอจะน่าติดตาม กราฟิกที่สวยงาม รวมถึงระบบการต่อสู้ที่ถึงแม้ว่ามันจะเก่าแก่แล้ว แต่มันก็สามารถสร้างความสนุกให้เหล่าผู้เล่นได้อยู่ดี Mafia: Definitive Edition ไม่ใช่เกมแย่ แต่ก็พูดได้ไม่เต็มปากว่ามันคืองาน Masterpiece อาจจะเป็นเกมที่ทำให้คุณหายคิดถึงเกมซีรีส์นี้หลังจากที่พวกเขาไม่ได้ออกภาคใหม่มากว่า 4 ปี กับราคาที่สบายกระเป๋ายังไงเกมนี้ก็คู่ควรแก่ในการซื้อมาเล่น แต่ย้ำไว้ก่อนว่าอย่าไปคาดหวังกับมันไว้เยอะอย่างผมก็พอ สั่งซื้อเกม - https://store.steampowered.com/app/1030840/Mafia_Definitive_Edition/ [penci_review id="68411"]
24 Sep 2020
เตรียมกลับสู่วิถีชีวิตชาวแก๊ง!! Mafia: Definitive Edition เผยความต้องการของระบบ PC แล้ว
ใกล้จะได้เวลากลับเข้าสู่วิถีชีวิตชาวแก๊งอีกครั้งกับเกม Mafia: Definitive Edition เกมดังกล่าวคือเกมที่พัฒนาขึ้นใหม่ ปรับปรุงกราฟิกให้สวยงามขึ้นกว่าภาคดั้งเดิมจนเรียกได้ว่าอยู่กันคนละมิติ แน่นอนว่านี่คือเกมที่จะลงให้กับเวอร์ชั่น PC ด้วย ดังนั้นหากต้องการภาพที่สวยงามในระดับสูงสุดที่ตัวเกมทำให้ได้ คุณก็ต้องใช้เครื่อง PC ที่มีคุณภาพไม่น้อย สามารถเช็คความต้องการของระบบ PC ได้ด้านล่างครับ MINIMUM SPECS OS – Windows 10 64-bit DirectX: Version 11 Processor – Intel Core-i5 2550K 3.4GHz / AMD FX-8120 3.1GHz Memory – 6GB RAM Graphics card – NVIDIA GeForce GTX 660 / AMD Radeon HD 7870 HDD – 50 GB RECOMMENDED SPECS OS – Windows 10 64-bit DirectX: Version 11 Processor – Intel Core-i7 3770 3.4GHz / AMD FX-8350 4.2GHz Memory – 16GB RAM Graphics card – NVIDIA GeForce GTX 1080 / AMD Radeon RX 5700 HDD – 50 GB อย่างที่เห็นว่าในสเปคขั้นแนะนำนั้นมีความต้องการของระบบที่สูงนิดหน่อยครับ แต่ในส่วนของขั้นต่ำนั้นคาดว่าแฟนๆ แทบทุกคนคงเล่นได้แบบสบายๆ เลย Mafia: Definitive Edition  จะวางจำหน่ายในวันที่ 25 กันยายน สำหรับเครื่อง PlayStation 4, Xbox One และ PC Credit: Gamingbolt
16 Sep 2020
Mafia: Definitive Edition โชว์วิถีชีวิตของชาวแก๊งในตัวอย่างใหม่!
2K Games ได้ปล่อยเทรลเลอร์ใหม่ของเกม Mafia: Definitive Edition ออกมาอีกครั้งเนื่องจากใกล้ได้เวลาที่ตัวเกมจะวางจำหน่ายแล้วนั่นเอง และจากในวิดีโอดังกล่าวนั้นพวกเขาก็ได้โชว์รายละเอียดใหม่ๆ เกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาเปลี่ยนแปลงไปจากเกมต้นฉบับ วิดีโอดังกล่าวมีความยาวไม่ถึงหนึ่งนาทีแต่ก็ทำให้เราเห็นว่าภายในเกมนี้เราจะได้ทำอะไรในฐานะของ Tommy Angelo ผู้ซึ่งดำดิ่งลงสู่วิถีชีวิตของชาวแก๊ง ตั้งแต่การยิงประจัญบานไปจนถึงการปล้นและขับรถไล่ล่าที่ดุเดือด ตัวอย่างใหม่นี้มีสิ่งใหม่ๆ ให้คุณได้ดูในวิดีโอด้านล่างครับ Mafia: Definitive Edition จะวางจำหน่ายให้กับเครื่อง PlayStation 4, Xbox One และ PC ในวันที่ 25 กันยายน นี้โดยแพลตฟอร์ม PC วางจำหน่ายทั้งใน Steam และ Epic Games Store ครับ Credit: Gamingbolt
11 Sep 2020
Mafia: Definitive Edition ปล่อยวิดีโอตัวอย่างเนื้อเรื่องอย่างเป็นทางการแล้ว!!
อย่างที่เรารู้กันว่า Mafia: Definitive Edition จะมาโชว์วิดีโอตัวอย่างเนื้อเรื่องอย่างเป็นทางการในงาน Gamescom: Opening Night Live ซึ่งมันเป็นตัวอย่างเนื้อเรื่องที่มีความยาวไม่ถึงสองนาทีครับ จากในวิดีโอตัวอย่างเนื้อเรื่องนั้นจะเริ่มโดยการโชว์ชื่อของเมืองที่เกมนี้จะดำเนินเหตุการณ์ ซึ่งแน่นอนว่าเมืองดังกล่าวนั้นก็หนีไม่พ้น Lost Heaven แน่นอนอยู่แล้ว เจ้าตัววิดีโอนี้ก็ไม่ได้บอกเล่าอะไรมากนักนอกเสียจากการโชว์ตัวละครที่คุ้นหน้าคุ้นตาเหล่าผู้เล่นที่เคยได้สัมผัสเกม Mafia ฉบับดั้งเดิมกันมาแล้ว นอกจากนี้ก็คือการโชว์กราฟิกภายในเกมที่ได้รับการอัปเกรดมาแล้วนั่นเองครับ Mafia: Definitive Edition วางจำหน่ายในวันที่ 25 กันยายน 2020 ให้กับเครื่อง Xbox One, PlayStation 4 และ PC
27 Aug 2020
Mafia: Definitive Edition ปล่อยวิดีโอพรีวิวโชว์โลก, เกมเพลย์, และอื่นๆ
ถึงแม้ว่าเป็นเรื่องน่าเศร้าที่ Mafia: Definitive Edition ที่ต้องถูกเลื่อนวันสางจำหน่ายออกไป แต่อย่างน้อยในวันนี้เราก็ได้เห็นพรีวิวจากสื่อต่างๆ ทั่วโลกแล้วครับ (อ่านของพวกเราได้ผ่านลิงก์นี้) ซึ่งแน่นอนว่ามีการปล่อยวิดีโอออกมาจากสื่อบางเจ้าด้วยเช่นยกัน ที่น่าสนใจคือวิดีโอที่ว่าได้โชว์ให้เราเห็นเกมเพลย์มากมายเลยครับ จากวิดีโอที่ปล่อยออกมานั้น ทำให้เราสามารถสรุปได้ว่า เกมนี้คือภาค Remake ของเกม Mafia ภาคแรก ที่วางจำหน่ายเมื่อนานมาแล้ว ซึ่งในการ Remake ครั้งนี้มีการใช้เอ็นจิ้นใหม่ในการพัฒนา รวมถึงมีการปรับปรุงแสง, ภาพ กับกราฟิกใหม่ พร้อมทั้งใส่ระบบเกมเพลย์ใหม่ๆ เข้าไปด้วย กระทั้งคัทซีนใหม่ก็มีการเพิ่มเข้ามาเช่นกัน รับชมวิดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้เลยครับ Mafia: Definitive Edition จะวางจำหน่ายในวันที่ 25 กันยายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC Credit: GamingBolt
27 Aug 2020
พรีวิว Mafia: Definitive Edition ยกเครื่องดีไซน์ใหม่ด้วยงานที่ละเมียดขึ้น
Mafia คือหนึ่งในซีรีส์ที่รู้ตัวอีกทีก็อยู่กับเรามาก็ราวๆ 18 ปีแล้วนะครับตั้งแต่เกม Mafia: The City of Lost Heaven วางจำหน่ายออกมาในปี 2002 ซึ่งสิ่งที่ทำให้ซีรีส์นี้ถูกพูดถึงอยู่ตลอดเวลาก็คงจะเป็นการนำเสนอเรื่องราวของโลกมาเฟีย การแก้แค้น การหักหลังที่สร้างออกมาได้อย่างลงตัว แต่เนื่องจากยุคสมัยนี้มันก็อาจจะเป็นเรื่องยากที่จะให้เกมเมอร์รุ่นใหม่ได้เข้าไปสัมผัสเกมภาคแรกที่ทางทีมพัฒนา Illusion Softworks สร้าง เนื่องจากที่เกมเพลย์หรือกราฟิกมันค่อนข้างตกยุคไปแล้ว โดยทางต้นสังกัดอย่าง 2K Games เองก็น่าจะเล็งเห็นในจุดนี้ และมองว่ามันน่าจะถึงเวลาแล้วที่เหล่าแฟนๆ เกมซีรีส์ Mafia จะได้เข้าไปสัมผัสมันอีกครั้ง ด้วยการ Remake เกมนี้โดยทีม Hanger 13 (ทีมที่สร้าง Mafia III) จนกลายมาเป็น Mafia: Definitive Edition ที่ทำการยกเครื่องระบบการเล่นใหม่ทั้งหมด ทั้งกราฟิกที่ใช้ขุมพลังเดียวจากเกม Mafia III ซึ่งใครที่เคยเล่นก็น่าจะรู้ถึงความสวยงามของมัน บวกกับการแก้ปัญหาระบบขับรถที่น่าขัดใจของเกมภาคก่อนๆ อีกด้วย โดย Mafia: Definitive Edition มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 25 กันยายน 2020 นี้ บนเครื่อง PC, PS4 และ Xbox One  แต่พวกเรา GameFever TH เองได้มีโอกาสเข้าไปทดลองเล่นเกมนี้ในช่วง 5 Chapter แรกและจะมาพรีวิวสั้นๆ เกี่ยวกับตัวเกมนี้ให้ทุกท่านได้ทราบกันว่า Mafia: Definitive Edition มีอะไรใหม่ๆ ที่น่าสนใจบ้าง ดำดิ่งในเมือง Lost Heaven ด้วยกราฟิกใหม่ทั้งหมด ในด้านของกราฟิกอย่างที่กล่าวไปว่า Mafia: Definitive Edition ได้นำเอา Engine ในภาค Mafia III มาใช้ ผู้พัฒนาได้ออกแบบโครงสร้างของเมือง Lost Heaven ใหม่ให้ดูสวยงามตามยุคสมัยนี้ ถึงแม้ว่ารูปแบบผังเมืองจะมีโครงสร้างที่เหมือนกัน แต่ผู้พัฒนาได้สร้างโลกของมันได้มีชีวิตชีวามากขึ้น มีรถและคนสัญจรตามท้องถนนจำนวนพอๆ กับเกม Mafia III เลยทีเดียว บวกกับรถใหม่ๆ อย่างรถมอเตอร์ไซต์ที่ถูกนำเข้ามาในภาคนี้เป็นภาคแรกของซีรีส์เลยทีเดียว การดีไซน์ Cutscene เองก็ทำออกมาได้ค่อนข้างละเมียดละไมกว่า Mafia III อยู่พอสมควร จากที่ได้ทดลองเล่นไปทั้งหมด 5 Chapter ส่วนตัวไม่เคยเห็นงานเผาของผู้พัฒนาเหมือนที่เคยทำในภาคก่อนหน้าเลย ใครที่เคยเล่น Mafia III ก็น่าจะเคยเห็นฉากรับภารกิจที่ตัวละครเรายืนคุยกับ NPC นิ่งๆ ที่ทำให้รู้สึกนึกว่านี่มันเกมสมัยเมื่อ 10 ปีที่แล้วหรือเปล่า แต่สำหรับ Mafia: Definitive Edition ตัดปัญหาได้หมด ทั้งการปั้นโมเดลและท่าทางของตัวละครที่สมจริงเป็นอย่างมาก บวกกับโหมดภารกิจที่ถึงแม้ว่าเค้าโครงการเล่าจะยังเหมือนกับเกมต้นฉบับ แต่ทว่าระบบการเล่นภายในนั้นผู้พัฒนาก็ได้ใส่รายละเอียดของเกมเพลย์ให้มากขึ้น ยกตัวอย่างในภารกิจที่ชื่อว่า Running Man ที่เราจะต้องหนีจากการตามล่าโดยเหล่าคู่อริ ซึ่งในเวอร์ชั่นปัจจุบันก็ยังเป็นเหมือนกันเพียงแต่ว่าในระหว่างการหนี ตัวเกมจะมีลูกเล่นให้เราได้เล่นมากขึ้นเช่นการปีนป่ายกำแพงตามบ้านต่างๆ ที่ในเวอร์ชั่นปกติไม่มีให้เล่น หรือจะเป็นการเล่าเรื่องภายในที่จะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย และอีกหนึ่งสิ่งที่มันขาดไม่ได้สำหรับ Mafia ก็คงจะเป็นเพลงบรรเลงที่สอดคล้องตามยุคสมัยนั้น ซึ่งโลกของ Mafia: Definitive Edition จะดำเนินอยู่ในยุคปี 30s ที่เพลงแนว Jazz เริ่มที่จะได้รับความนิยมมากขึ้น ซึ่งผู้พัฒนาเองก็ได้ทำการเรียบเรียงดนตรีใหม่ ที่ถึงแม้ว่าซาวด์ดนตรีจะยังคงแนว Jazz ไว้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ได้มันก็ได้กลิ่นอายความทันสมัยจากเทคโนโลยีห้องอัดในสมัยนี้ได้มากขึ้น ระบบขับรถ หนึ่งในปัญหาที่หลายๆ คนน่าจะปวดขมับกับเกมซีรีส์ Mafia ก็คงจะหนีไม่พ้นการบังคับรถที่ค่อนข้างบังคับพวงมาลัยได้ยาก ซึ่งเอาจริงๆ มันก็สมเหตุสมผลนะเพราะดีไซน์ของยานพาหนะในสมัยนั้นจะค่อนข้างใหญ่และน่าจะมีน้ำหนักที่มากกว่าสมัยนี้มาก การตีโค้งรถต่างๆ ก็คงจะไม่ต่างกับการบังคับรถบรรทุกเสียเท่าไร แต่ในเกม Mafia: Definitive Edition ก็ได้แก้ปัญหาตรงนี้ได้ในระดับหนึ่ง นั่นคือการดีไซน์โลกของเมือง Lost Heaven ที่ทำให้เลนบนท้องถนนมีความกว่างมากกว่าเกมเวอร์ชั่นต้นฉบับ และเกมภาคอื่นๆ มากอยู่พอสมควร ซึ่งมันทำให้ผู้เล่นนั้นมีพื้นที่ในการตีโค้งเลี้ยวรถได้มากขึ้นกว่าเดิมเยอะ เราสามารถเลี้ยงความเร็วรถในระดับหนึ่งและทำการตีโค้งโดยไม่ชนได้อย่างสบายๆ (แต่ถ้าความเร็วรถมันเร็วเกินไป ก็ยังชนอยู๋ดี) แต่ถ้าใครยังคิดว่าการเลี้ยวรถมันยังยากอยู่ ผู้พัฒนาก็ยังใส่โหมดการขับรถที่ชื่อว่า Regular ที่มันจะทำให้พวงมาลัยของเราบังคับง่ายขึ้น รถที่หนักก็จะตีวงได้ง่ายกว่าเดิม หรือรถบางคันที่น้ำหนักเบาตีโค้งเกินไปรถจะพลิก ตัวเกมก็จะคำนวนไม่ให้มันเลี้ยวง่ายจนตูดรถสะบัดสามตลบแน่นอน ซึ่งส่วนตัวคิดว่าใครที่เล่นเกมภาคนี้ท่านน่าจะชอบระบบการขับรถเป็นแน่ !! เกมเพลย์การต่อสู้ และโหมด Classic หลายๆ ท่านก็อาจจะเคยเห็นตัวอย่างเกมเพลย์ที่ผู้พัฒนาเคยปล่อยออกมาบ้างแล้ว (ไม่เคยดู คลิ๊ก) ตัวเกมมีระบบหลบตามกำแพงเพื่อบังกระสุน ซึ่งมันก็เหมือนๆ กับเกม Openworld ทั่วไป แต่ผู้พัฒนาก็ยังใส่รายละเอียดของความเป็นเกมต้นฉบับเข้ามาดั่งเดิม อย่างเช่นระบบเลือดของเกมที่จะ Regen เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น เราจะต้องเก็บ Health Pack เพื่อเติมเลือดเอง เป็นการผสมผสานเกมเพลย์รูปแบบเก่ากับใหม่ได้ดี รวมถึงตัวเกมก็ยังมีระบบที่เข้ามาสร้างสีสันให้กับ Mafia: Definitive Edition มากขึ้นและทำให้มันดูน่าสนใจขึ้นเป็นกอง นั่นก็คือโหมดที่ชื่อว่า Classic ซึ่งถือว่าเป็นโหมดยากสุดของเกมก็ว่าได้ และค่อนข้างท้าทายต่อผู้เล่นในทุกภารกิจเลยทีเดียว เพราะว่านอกจากที่เราจะโดนศัตรูยิงเจ็บได้ง่ายแล้วนั้น จุด Mark ของศัตรูสีแดงในแผนที่ก็จะถูกลบออก เราจะต้องสังเกตุเองว่าศัตรูอยู่ตรงไหน ระบบช่วยขับรถต่างๆ ก็จะถูกปิดทำให้เราบังคับรถได้ยากขึ้น การ Regen เลือดก็จะน้อยลง หรือการเก็บ Health Pack ก็จะฟื้นเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น และนอกจากความท้าทายในเรื่องของข้อจำกัดแล้ว การดีไซน์โหมด Classic ผู้เล่นอาจจะต้องฝึกฝนอย่างหนักเพื่อที่จะผ่านภารกิจหนึ่งภารกิจเลยทีเดียว ยกตัวอย่างในภารกิจที่ชื่อว่า Fair Play ที่เรานั้นจะต้องขโมยรถสุดแรงของคู่แข่งไปทำการปรับแต่งให้เครื่องยนต์พัง และเราจะต้องขับรถข้ามเมืองด้วยเวลาเพียงแค่ 2 นาทีเท่านั้น (ถ้าเป็นโหมดอื่นเวลาจะนานขึ้น) ซึ่งถ้าหากเราจะขับรถไปให้ถึงทางที่กำหนดผู้เล่นจะต้องเหยียบคันเร่งให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ บวกกับการที่เราห้ามชนหรือรถพลิกแม้แต่ครั้งเดียว (ไม่งั้นเวลาไม่พอ) และอย่างที่กล่าวไปว่าในโหมดนี้ผู้เล่นจะไม่มีระบบช่วยการควบคุมแต่อย่างใด การขับรถสุดแรงพอเลี้ยวนิดเดียวรถก็สะบัดพลิก 3 ตลบแล้ว !! ผู้เล่นจะต้องใช้ความฝึกฝนการในขับรถนั้นให้ชำนาน อาจจะต้อง Game Over ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อผ่านมันไปให้ได้ แต่จากที่ได้ลองมาก็ต้องบอกว่าภารกิจมันยากก็จริง แต่มันก็ไม่ได้ยากจนเกินไป เพราะส่วนตัวก็ผ่านมันมาได้ (แต่อย่างทุลักทุเล) Mafia: Definitive Edition เป็นเกมฉบับ Remake ที่ต่อยอดและแก้ไขจุดด้อยจากเกมภาคก่อนๆ หน้าเป็นอย่างดี งานด้านดีไซน์ทั้งเกมเพลย์และกราฟิกก็ค่อนข้างทำได้ละเมียดละมัยมากขึ้น บวกกับราคาของเกมเพียงแค่ 959 บาท (ราคาบน Steam) ซึ่งถือว่าถูกมากๆ ถ้าให้เปรียบเทียบกับเกมในสมัยนี้ และมันน่าจะเป็นซีรีส์ที่กลับมาเรียกกระแสของเกม Mafia อีกครั้ง
26 Aug 2020
เตรียมรับชมตัวอย่างใหม่จาก Mafia: Definitive Edition ได้ในงาน Gamescom
กำลังจะกลับมาให้เราสัมผัสกันอีกครั้งเร็วๆ นี้กับเกม Mafia: Definitive Edition ซึ่งนับว่าน่าเสียดายที่สุดท้ายต้องเลื่อนวันวางจำหน่ายออกไปเป็นช่วงเดือนหน้าแทน อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่า ก่อนที่เกมจะวางจำหน่าย เราจะได้ดูตัวอย่างใหม่ที่โชว์เนื้อเรื่องของเกมก่อนในงาน Gamescom ที่กำลังจะมาครับ! Twitter ของ Mafia: Trilogy ได้มีการโพสต์ข้อความใหม่ว่า ภายในงาน Gamescom ที่กำลังจะมาคืนพรุ่งนี้ จะมีการปล่อยวิดีโอตัวอย่างใหม่ โชว์เนื้อเรื่องของเกมภาคนี้ด้วย แน่นอนว่าในตัวเกมภาค Remake นี้ ไม่ได้มีการเปลี่ยนเนื้อเรื่องให้แตกต่างออกไปจากเดิมมากมายอะไร แต่มันก็ยังน่าตื่นเต้นอยู่ดีที่จะได้เห็น Footage ใหม่ๆ ของเกมนี้ครับ Mafia: Definitive Edition จะวางจำหน่ายในวันที่ 25 กันยายน 2020 นี้ ทั้งบนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC Tune in to @Gamescom’s #OpeningNightLive for the next Mafia: Definitive Edition narrative trailer! Watch live 8 pm CEST / 2 pm ET / 11 am PT at https://t.co/XQkWlS7Ejp pic.twitter.com/7kL7H6ozn8 — Mafia: Trilogy (@mafiagame) August 24, 2020 Credit: GamingBolt 
26 Aug 2020
ผู้พัฒนา Mafia: Definitive Edition อธิบายถึงความยากระดับคลาสสิกว่ามันคืออะไร
Mafia: Definitive Edition ของทีมพัฒนา Hangar 13 จะวางจำหน่ายในเดือนหน้าและดูเหมือนว่าการรีเมคในครั้งนี้จะทำให้แฟนๆ ทึ่งไปกับการพัฒนาของมัน เกมนี้มีสิ่งใหม่ๆ เพิ่มเข้ามามากมายเช่น ระบบจัดแสงแบบใหม่และฉาก Cinematics ที่สร้างขึ้นใหม่นั่นเอง นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกระดับความยากหลายระดับ แต่สำหรับผู้เล่นที่ชอบความท้าทายก็สามารถเลือกความยากระดับคลาสสิกได้ และจากในประกาศความยากระดับคลาสสิกเป็นการถ่ายทอดประสบการณ์ของเกมมาเฟียภาคเก่า คุณ Prakash Choraria ผู้ออกแบบระบบเกมอาวุโสของ Hangar 13 กล่าวว่า "ด้วยความยากระดับคลาสสิก เราต้องการมอบบางสิ่งที่ผู้เล่นรู้สึกประสบความสำเร็จเมื่อเอาชนะได้ ขณะเดียวกันก็ทำให้ผู้เล่นรู้สึกชีวิตราบรื่นก่อนจะเจอกับบางอย่างขวางทางจนรู้สึกหงุดหงิด ยกตัวอย่างก็การเข้าร่วมการแข่งในภารกิจ Fair Play เป้าหมายของเราในการตั้งค่าความยากของเกม Mafia: Definitive Edition คือการทำให้มันง่ายขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อยเนื่องจากผู้เล่นหลายคนติดขัดและไม่สามารถชนะภารกิจในเกมได้ ในความยากระดับคลาสสิกมันก็ยังคงค่อนข้างยาก แต่ก็สามารถเอาชนะได้ด้วยความอดทนและฝึกฝน" ตัวช่วยในการขับรถนั้นแทบจะไม่มีเมื่อเทียบกับการตั้งค่าอื่นๆ ในความยากระดับคลาสสิก และคุณจะไม่เห็นสัญญาณในเกมที่เอาไว้บอกว่าต้องไปที่ไหน ส่วนทางตำรวจนั้นพวกเขาจะลงโทษคุณอย่างเป็นธรรมสำหรับอาชญากรรมเล็กๆ น้อยๆ และ "มันจะไม่มีความผิดที่เล็กเกินไป" Choraria กล่าว การขับรถเกินขีดจำกัดความเร็วเพียงเล็กน้อยคุณก็ต้องหยุดรถเสียค่าปรับเพื่อหยุดสถานการณ์ไม่ให้มันบานปลาย หากผู้เล่นยังยืนกรานที่จะไม่สนกฏหมายตำรวจก็จะตามจับคุณและตั้งสิ่งกีดขวางมาดักผู้เล่น ยานพาหนะในเกมนั้นบอบบางพอที่ตำรวจจะจับคุณได้ง่ายๆ และความยากอีกอย่างของระดับความยากคลาสสิกคือ ถ้าผู้เล่นรีโหลดกระสุนปืน Tommy โดยในแม็กกาซีนเหลือกระสุนอยู่ 38 นัด กระสุนที่เหลือในแม็กกาซีนก็จะหายไปทั้งหมด นอกจากนี้การฟื้นฟูเลือดอัตโนมัติก็จะเพิ่มให้เพียง 20 เปอร์เซ็นต์ของพลังชีวิตทั้งหมดในขณะที่ First Aid จะฟื้นฟูน้อยกว่าความยากระดับอื่นๆ แต่ถ้าหากคุณเล่นระดับความยากนี้แล้วรู้สึกว่ารับไม่ไหวก็สามารถเปลี่ยนระดับความยากได้ทุกเมื่อ แต่มันมีถ้วยรางวัลและความสำเร็จของการจบเกมนี้ด้วยระดับความยากคลาสสิกด้วย เพื่อเป็นรางวัลแก่มาเฟียตัวจริง Mafia: Definitive Edition จะวางจำหน่ายในวันที่ 25 กันยายน สำหรับเครื่อง Xbox One, PlayStation 4 และ PC Credit: Gamingbolt
20 Aug 2020
สัมภาษณ์ผู้กำกับเกม Mafia: Definitive Edition "จุดเริ่มต้นใหม่ของเกมเจ้าพ่อรุ่นเก๋า"
แม้จะไม่ได้เป็นที่นิยมแพร่หลายในระดับเดียวกับเกมโลกเปิดหลายๆ เกมที่เกิดในยุคเดียวกัน โดยเฉพาะหลังการวางจำหน่ายของเกมภาคล่าสุดอย่าง Mafia III ที่ได้รับเสียงตอบรับไม่ดีนักทั้งจากนักวิจารณ์และผู้เล่น แต่เกม Mafia ภาคแรกก็ยังถือเป็นหนึ่งในเกมโลกเปิดรุ่นเก๋า ที่ยังคงมีกลุ่มแฟนที่เหนียวแน่นอยู่จนถึงทุกวันนี้ ด้วยเนื้อเรื่องที่เข้มข้นน่าติดตาม ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณของสื่อแนวมาเฟียไม่แพ้ผลงานในตำนานอย่าง The Godfather เลยทีเดียว     เกือบ 20 ปีหลังจากที่เกม Mafia ภาคแรกวางจำหน่ายไปในปี 2002 ล่าสุดทางผู้พัฒนา Hangar 13 ก็ได้คืนชีพเกม Mafia ภาคแรกขึ้นมากอีกครั้งในฐานะเกม Mafia: Definitive Edition ที่นำเอาเกมเจ้าพ่อยุคเก๋ามาเล่าใหม่ด้วยเทคโนโลยีของยุคปัจจุบัน พร้อมกับระบบเกมเพลย์ กราฟิก และบททีเขียนขึ้นใหม่ทั้งหมด เพื่อเล่าเนื้อเรื่องของมาเฟียจำเป็น Tommy Angelo และการเอาตัวรอดบนหนทางมาเฟียของเขา     ก่อนที่เกมจะวางจำหน่ายในวันที่ 25 กันยายนนี้ ทางทีมงาน GameFever ได้มีโอกาสเข้าร่วมสัมภาษณ์ผู้ก่อตั้งค่ายพัฒนา Hangar 13 และผู้กำกับเกม Mafia: Definitive Edition คุณ Haden Blackman เพื่อพูดถึงรายละเอียดใหม่ๆ ที่จะถูกเพิ่มเข้าไปในเกม พร้อมกับทิศทางในอนาคตของซีรีส์ Mafia ในยุคคอนโซลใหม่ที่กำลังใกล้เข้ามานี้ ถือว่าห่างหายกันไปนานพอควรกับซีรีส์ Mafia ตั้งแต่ที่ภาค 3 วางจำหน่ายไปเมื่อปี 2016 ทำไมพวกคุณถึงคิดว่านี่เป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะหวนคืนสู่ซีรีส์นี้     HB: หลังจากที่เราพัฒนาเนื้อหา DLC ทั้งหมดของเกม Mafia III เสร็จหมดแล้ว ทางทีมก็เริ่มต้นกระบวนการพัฒนาเกมสำหรับเกม IP ใหม่ที่เราอยากจะสร้างต่อไป แต่ในขณะเดียวกัน เราก็รู้ว่ากว่าที่ไอเดียพื้นฐานของ IP ใหม่ที่ว่านั้นจะเริ่มเป็นรูปเป็นร่างชัดเจนขึ้นมาก็คงใช้เวลาอีกซักพัก และเราก็มีสมาชิกทีมพัฒนาฝ่ายออกแบบศิลป์และฝ่ายออกแบบคัตซีนที่จะไม่มีอะไรทำกันไปอีกพักใหญ่ๆ เราเลยเริ่มมานั่งคิดกันว่าจะสามารถทำอะไรไปพลางๆ ในขณะที่กำลังพัฒนาไอเดียของ IP ใหม่ และหนึ่งในข้อเสนอของสมาชิกในทีมหลายคนก็คือการรีเมคเกม Mafia ภาคแรก เพราะเทคโนดลยีในการสร้างเกมก็เปลี่ยนไปมากตั้งแต่ที่เกมดั้งเดิมวางจำหน่ายไป ซึ่งก็เปิดโอกาสให้เราสามารถเล่าเรื่องของเกมภาคแรกได้ในวิธีที่ดีขึ้น และทำให้โลกของเกมมีชีวิตมากขึ้น รวมไปถึงทำใหัการต่อสู้สนุกขึ้นด้วย เป็นความต้องการของสมาชิกทีมหลายคนที่อยู่กับซีรีส์นี้มาตั้งแต่ภาคแรก ที่อยากจะยกระดับเกมขึ้นมาให้เทียบเท่ามาตรฐานของเกมปัจจุบัน      นอกจากกราฟิกของเกม ที่ทำออกมาได้สวยงามวมมาตรฐานของเกมยุคใหม่ มีองค์ประกอบใดอีกบ้างที่คุณมองว่าถูกปรับปรุงมากที่สุดในเกมภาครีเมค     HB: สำหรับผมมันคงมีสองข้อหลักๆ อย่างแรกคือเรื่องของเกมเพลย์ ในเกม Mafia ดั้งเดิม ภารกิจทุกด่านในเกมจะมีเกมเพลย์เฉพาะของตัวเอง ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่เราพยายามเก็บรักษาเอาไว้ในภาคใหม่ และยังมีระบบเกมเพลย์แปลกๆ ให้ลองสัมผัสมากมายตามเนื้อเรื่อง แต่เราก็พัฒนาระบบการยิงปืนอันเป็นแก่นของเกมเพลย์ด้วย ให้มันสามารถสื่อความรู้สึกของการเป็นคนขับแท๊กซี่ที่ต้องผันตัวเป็นนักเลงจำเป็น เราใช้ฐานเกมเพลย์แบบ Cover Based (เกมยิงปืนที่เน้นการใช้ที่กำบัง) มาจาก Mafia III และปรับให้มันเข้ากับตัวละครหลักมากขึ้น คุณไม่ได้เป็นทหารผ่านศึกเหมือน Lincoln ในเกมภาค 3 แล้ว ฉะนั้นเราจึงอยากให้คุณจำเป็นต้องใจเย็นและวางแผนมากขึ้นว่าเมื่อไหร่ควรหลบเข้าที่กำบัง หรือเมื่อไหร่ควรโผล่ขึ้นมายิง เป็นองค์ประกอบที่ทีมพัฒนาใส่ใจมากๆ แน่นอนว่าด้วยยุคสมัยที่ต่างกัน อาวุธที่คุณใช้ก็จะต่างจาก Mafia III ด้วย ซึ่งก็เป็นรายละเอียดที่เราให้ความสำคัญ เพื่อสร้างความแตกต่างระหว่างเกม D.E. และ Mafia III       อีกข้อปรับปรุงใหญ่ในภาครีเมคคือด้านการเล่าเรื่อง และการแสดงโดยรวม เนื้อเรื่องของเกมในภาพกว้างจะยังเหมือนเดิม ภารกิจที่คุณเล่นและเหตุการณ์ใหญ่ๆ ในเนื้อเรื่องก็จะยังเหมือนภาคดั้งเดิม แต่เราก็อยากจะใช้เวลาไปกับการพัฒนาตัวละครอื่นๆ รอบตัวพระเอกด้วย เพื่อทำให้ผู้เล่นเข้าใจเหตุผลเบื้องหลังการกระทำของตัวเอก Tommy รวมไปถึงตัวละครรอบๆ ตัวเขาก็ถูกสำรวจอย่างลึกซึ้งมากขึ้น ทำให้การเล่าเรื่องโดยรวมถูกยกระดับขึ้นมาทัดเทียบกับมาตรฐานของเกมปัจจุบัน     พูดกันตามตรง ผมยังคงเชื่อว่าเกม Mafia ภาคดั้งเดิมถือเป็นเกมชั้นนำในแง่ของการเล่าเรื่องในยุคที่วางจำหน่าย แต่ตั้งแต่ตอนนั้นมา วงการเกมโดยรวมก็เปลี่ยนไปมาก และเราในฐานะผู้พัฒนาก็มีฝีมือในการเล่าเรื่องได้ดีกว่าสมัยก่อนเยอะ เราให้ความสำคัญกับการแสกนหน้านักแสดงและการ Motion Capture มาก ซึ่งทั้งหมดทำโดยเทคโนโลยีที่เราพัฒนาเองภายในค่าย รวมไปถึงระบบแสงสีใหม่ ที่พัฒนายิ่งกว่าในเกม Mafia III อีกด้วย     เกมภาครีเมคนี้จะมีความใกล้เคียงกับภาคดั้งเดิมแค่ไหน ผู้เล่นจะยังต้องระวังตำรวจจราจรอยู่หรือเปล่า     HB: ระบบตำรวจจราจรจะยังอยู่ในเกมแน่นอน ความตั้งใจอย่างหนึ่งของเราในการสร้างเกมนี้ คือการพยายามคงจิตวิญญาณของเกมภาคดั้งเดิมเอาไว้ให้ได้มากที่สุด หากมันมีอะไรที่เรารู้สึกว่าเราปรับปรุงให้ดีขึ้นไม่ได้ เราก็เลือกจะปล่อยให้มันเป็นเหมือนเดิมดีแล้ว ไม่งั้นก็ยกให้ผู้เล่นเป็นคนตัดสินใจว่าอยากให้มีระบบนั้นๆ ไหม เช่นถ้าคุณเล่นเกมด้วยค่าพื้นฐาน การต่อสู้ก็อาจจะท้าทายขึ้นมาหน่อย และบังคับให้คุณต้องใช้ความคิด แต่ถ้าคุณแค่อยากจะสัมผัสเนื้อเรื่อง มันก็มีระดับความยากที่สามารถปรับให้คุณผ่านการต่อสู้เหล่านั้นไปได้ง่ายๆ หรือถ้ากลับกัน คุณอยากให้เกมเป็นประสบการณ์ที่ท้าทายมากๆ ก็สามารถปรับได้เช่นเดียวกัน     ระบบตำรวจจราจรในเกมก็เช่นกัน ตำรวจอาจจะสามารถไล่จับคุณด้วยข้อหาทางจราจรได้ เช่นการขับเกินกำหนดความเร็ว หรือการไม่สนใจป้ายจราจร ซึ่งทั้งหมดนั้นยังมีอยู่ในเกม แต่จะเปิดหรือปิดก็ได้ตามใจผู้เล่น เพราะเราอยากให้ผู้เล่นได้รับประสบการณ์ Mafia ที่เขาต้องการมากกว่า     เกม Mafia ภาคดั้งเดิมมักจะถูกจดจำในฐานะเกมเน้นเนื้อเรื่องที่ค่อนข้างดำเนินไปเป็นเส้นตรง แม้ว่าตัวเกมเองจะเป็นแนว Open World ก็ตาม คุณได้ทำอะไรเพื่อกลบจุดอ่อนตรงนี้บ้างไหม หรือคุณไม่ได้มองว่ามันเป็นจุดอ่อนตั้งแต่ต้น     HB: ผมไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นจุดอ่อนที่ต้องกลบนะ เพราะความตั้งใจของเราตั้งแต่ต้นก็คือการคงไว้ซึ่งตัวตนของเกมดั้งเดิม ที่ก็มีลักษณะเป็นเกมเน้นเนื้อเรื่องที่ดำเนินไปเป็นเส้นตรงตามที่ว่า และเกม Definitive Edition ก็ยังเป็นแบบนั้น แน่นอนว่าคุณก็ยังสามารถสำรวจเมืองของเกมแบบโลกเปิดได้ถ้าคุณต้องการ แต่ทีมพัฒนาเลือกที่จะทุ่มเวลาและความตั้งใจลงไปกับการเล่าเนื้อเรื่องของเกมให้ดีที่สุดที่จะทำได้ และทำให้ภารกิจต่างๆ ของเกมมีชีวิตชีวามากกว่าเดิม ภารกิจทั้งหมดในเกมได้ถูกปรับปรุงไปอย่างมาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คนที่อยากสำรวจก็ยังสามารถทำได้ และมีความลับรอให้คุณค้นพบมากมายแน่นอน   คุณได้ใช้เกม Open World เกมอื่นๆ ที่วางจำหน่ายออกมาในช่วงไม่กี่ปีนี้เป็นแรงบันดาลใจสำหรับเกมภาค D.E. บ้างไหม นอกจากพื้นฐานเกมเพลย์ของ Mafia III ที่กล่าวมา     HB: สิ่งแรกที่เราทำในการหาแรงบันดาลใจสำหรับเกมภาค D.E. คือการมองกลับไปที่ข้อดีและข้อด้อยของเกมภาคก่อนๆ ที่ผ่านมาทั้งหมด และแน่นอนว่าเราก็พยายามจะทำให้ข้อดีมันดียิ่งขึ้นกว่าเดิม และพยายามกลบข้อด้อยจากเกมภาคก่อนๆ ไปด้วย แล้วเราก็ย้อนกลับไปดูภาพยนตร์ที่ถ่ายทำในยุคนั้น หรือที่นำเสนอภาพของยุคนั้นได้ดี แน่นอนว่าเรื่อง The Godfather ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจดั้งเดิมของเกมภาคแรกก็รวมอยู่ในนั้น เราต้องศึกษาว่าผู้คนในยุคนั้นแต่งตัวอย่างไร ใช้ภาษาอย่างไร เพราะเราอยากจะทำให้ทุกอย่างมันสมจริงตามยุคสมัยนั้นให้ได้มากที่สุด     แต่นอกเหนือไปจากแรงบันดาลใจจากสื่อแนวมาเฟียตรงๆ เราในฐานะเกมเมอร์ก็มองหาแรงบันดาลใจจากเกมที่เราเล่นเองด้วยเช่นกัน อย่างผมเป็นคนที่ชอบเกม Assassin’s Creed มากๆ ผมก็มักจะคอยสังเกติว่าพวกเขาใส่องค์ประกอบอะไรลงไปในเกมบ้าง ที่ทำให้เกมของพวกเขารู้สึกสมจริงตามยุคสมัยนั้นๆ หรือเกมอื่นๆ ทั้ง Bioshock และ Skyrim ที่ต่างก็เป็นเกมที่ยอดเยี่ยมในแบบของตัวเอง ที่เราใช้เป็นต้นแบบสำหรับองค์ประกอบใดองค์ปะกอบหนึ่งในเกม แม้ว่าตัวเกมเหล่านี้จะไม่เหมือนเกมที่เราพยายามจะสร้างกันอยู่เลยก็ตาม     ในเกมภาค 2 และ 3 มีการสอดใส่ Easter Egg จากเกมภาคแรกเข้าไปให้แฟนๆ ได้ค้นหากันมากมาย แล้วในเกมภาค D.E. จะยังมี Easter Egg จากเกมเหล่านี้อยู่ด้วยไหม แม้ว่าตามหลักแล้วจะเกิดขึ้นก่อนหน้าภาค 2 และ 3     HB: แน่นอนอยู่แล้ว จริงๆ แล้วข้อดีอย่างหนึ่งของการสร้างเกมนี้ คือการที่เราสามารถนำเกมทั้งสามภาคมาต่อเรียงเป็นไทม์ไลน์เดียวกันได้ ในเกมภาค D.E. จะมีการเอ่ยถึงทั้งตัวละครและตระกูลมาเฟียจากเกมภาค 2 และ 3 ให้ได้ยินอยู่เนืองๆ ผมไม่อยากสปอยอะไรมาก แต่ตอนจบของเกมภาค D.E. ก็จะสอดคล้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นในภาค 2 ด้วย ซึ่งผมคิดว่าแฟนๆ ของเกมภาค 2 น่าจะเข้าใจว่าผมพูดถึงอะไร เราอยากจะสร้างความรู้สึกว่าเรื่องราวของเกมทั้งสามภาคมันอยู่ในจักรวาลเดียวกัน ตระกูลมาเฟียจากเกมทั้งสามภาคต่างมีตัวตนอยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน ฉะนั้นเกมภาค D.E. จึงจะมีรายละเอียดเหล่านี้เยอะมากๆ และจะมี Easter Egg อื่นๆ ที่อาจจะไม่ได้อิงช่วงเวลาของเกมมากนัก เช่นเหล่าการ์ดบุหรี่ (Cigarette Card) ลายเจ้าพ่อมาเฟียชื่อดัง ไปจนถึงปกหนังสือการ์ตูนที่อาจจะแสเง Easter Egg ที่ไม่ได้อิงไทม์ไลน์ของเกม เช่นปกหนังสือการ์ตูนอันโปรดของผม ที่เป็นภาพตัวเอกของเกมทั้งสามภาค (Tommy, Vito, Lincoln) ออกบู๊พร้อมๆ กัน ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ในโลกของเกม แต่เราก็เชื่อว่าแฟนๆ น่าจะชอบกัน     เมือง Lost Heaven ของเกมสร้างมาอย่างสวมงามมากๆ แต่ผู้เล่นจะสามารถคาดหวังให้เมืองมีชีวิตชีวาได้แค่ไหน เหล่าผู้คนในเกมจะมีชีวิตประจำวันของตัวเองเหมือนในเกมอย่าง Red Dead Redemption 2 หรือไม่      HB: ต้องบอกว่าทีมของเรามุ่งเน้นไปที่การสร้างเกมเนื้อเรื่องในแบบเดียวกับเกมดั้งเดิมมากกว่า ซึ่งเรามองว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญมากกว่าสำหรับเกม Mafia แต่เราก็ยังพอมีระบบต่างๆ ในเกมที่อาจจะนำไปสู่เหตุการณ์เจ๋งๆ ที่ผู้เล่นไม่คาดฝันได้ อย่างเช่นระบบตำรวจ ที่ผู้เล่นอาจจะสามารถเล่นกับมันได้หลากหลายวิธี จนทำให้เกิดเป็นเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นโดยไม่ตั้งใจได้ เรายังคงอยากจะให้เมืองของเกมมันมีชีวิตชีวา และสื่อถึงยุคสมัยของเกมได้จริงๆ แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าว่ากันตามเนื้อเรื่อง Tommy (ตัวเอก) ก็ไม่ได้มีเวลามากพอจะมาทำตามคำขอของชาวเมืองงทั่วไปเช่นเดียวกัน เพราะเขาและแก๊งกำลังทำสงครามกับแก๊งคู่แข่งอยู่   ด้วยการมาถึงของยุคคอนโซลใหม่ในอีกไม่กี่เดือนนี้ ทางค่าย Hangar 13 มีแผนสำหรับอนาคตเตรียมไว้บ้างหรือยัง แล้วซีรีส์ Mafia จะมีภาคต่อไปให้เราเห็นอีกไหม     HB: เราตื่นเต้นเสมอเวลาที่มีคอนโซลใหม่ๆ ให้เราได้พัฒนาเกม เพราะฉะนั้นเราจึงรอไม่ไหวที่จะได้สัมผัสกับคอนโซลเหล่านี้ด้วยตัวเองเช่นกัน ทุกวันนี้ทีมพัฒนาของเราก็นั่งคุยเรื่องความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่จะมาพร้อมกับคอนโซลรุ่นใหม่เหล่านี้กันตลอดเวลา ในส่วนของค่าย Hangar 13 เรากำลังมุ่งมั่นกับการพัฒนาเกม Definitive Edition ให้เสร็จ เพื่อที่จะได้หันไปพัฒนาเกม IP ใหม่ที่เรากล่าวถึงไปอย่างเต็มที่ ซึ่งเราจะขอประกาศในภายหลัง      สำหรับเกมภาค D.E. นี้ ผมหวังว่าจะเป็นโอกาสให้แฟนๆ ที่ไม่เคยเล่นภาคแรกสามารถสัมผัสกับซีรีส์ Mafia ได้ และอาจจะทำให้พวกเขาสนใจจะกลับไปเล่นเกมภาค 3 ที่ตอนนี้เปลี่ยนไปมากจาก DLC ต่างๆ ที่เพิ่มเข้าไปหลังจากที่เกมวางจำหน่าย สำหรับอนาคตของซีรีส์ Mafia เรามีทีมพัฒนาหลายคนที่อยู่กับซีรีส์มาตั้งแต่เกมภาคแรก มั่นใจได้ว่าพวกเรากำลังมองหาเวลาเหมาะๆ ที่จะหวนสู่เนื้อเรื่องแนวมาเฟียที่เรารักอีกแน่นอน Mafia: Definitive Edition จะวางจำหน่ายในวันที่ 25 กันยายนนี้สำหรับ PS4, Xbox One, PC
24 Jul 2020
Mafia: Definitive Edition ปล่อยเกมเพลย์ 15 นาทีตามที่เคยสัญญาไว้!
เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว Hangar 13 ได้ประกาศเลื่อนวางจำหน่ายเกม Mafia: Definitive Edition เพื่อขัดเกลาและทำให้มันเป็นเกมที่ดีที่สุดของแฟนๆ ทั่วโลก อีกทั้งทางด้านผู้พัฒนาได้สัญญาว่าจะมีการปล่อยเกมเพลย์มาให้เราชมกันในวันที่ 22 กรกฎาคม ซึ่งก็คือวันนี้นี่เอง!     จากโพสต์ล่าสุดบน Twitter อย่างเป็นทางการของผู้พัฒนาได้ยืนยันแล้วว่าจะปล่อยเกมเพลย์ให้เราชมกันในวันนี้เวลา 22:00 น. แต่เหมือนว่าล่าสุดวิดีโอดังกล่าวจะหลุดออกมาก่อนแล้วในโลกอินเตอร์เน็ตครับ สามารถรับชมวิดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้     นี่คือเกม Mafia ที่ทำการรีเมคแบบเต็มรูปแบบที่ปรับปรุงกราฟิกและโมเดลตัวละครใหม่ พร้อมพัฒนาเอฟเฟกต์และแสงสีให้สวยงามยิ่งขึ้น โดยมาในชื่อว่า Mafia: Definitive Edition นอกจากนี้ผู้พัฒนายังกล่าวว่า Lost Heaven จะให้ความสนุกกับผู้เล่นมากกว่าเดิมอีกด้วย     Mafia: Definitive Edition มีกำหนดจะวางจำหน่ายในวันที่ 25 กันยายน บนเครื่อง Xbox One, PS4 และ PC           Credit: Gamingbolt
22 Jul 2020
Mafia: Definitive Edition ประกาศเลื่อนวันวางจำหน่ายเป็นวันที่ 25 กันยายน!
Mafia: Definitive Edition ที่มีกำหนดจะเปิดให้บริการในวันที่ 28 สิงหาคม นี้ได้เปลี่ยนกำหนดการเป็นวางจำหน่ายในวันที่ 25 กันยายน และจะมีการปล่อยตัวเกมเพลย์ในวันที่ 22 กรกฎาคม นี้แทน! ประกาศล่าสุดจาก Hangar 13 และผู้จัดจำหน่าย 2K Games กล่าวว่า แม้ว่าพวกเขาตั้งใจจะวางจำหน่ายเกมนี้ในวันที่ 28 สิงหาคม แต่ทว่าการจะทำให้ทุกอย่างเสร็จทันเวลาสำหรับวันปล่อยตัวเกมกลายเป็นความท้าทายที่หนักหน่วงเกินไป เนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 และพวกเขาไม่ต้องการลดคุณภาพของตัวเกมลงจึงตัดสินใจที่จะเลื่อนวันจำหน่ายออกไป พวกเขายังกล่าวว่าเกมนี้คือ "โปรเจคที่เต็มไปด้วย Passion" เหล่าผู้พัฒนาต้องการสร้าง Mafia แบบดั้งเดิมที่มีความคลาสสิกและทำให้มันเป็นเกมที่ดีที่สุดสำหรับแฟนๆ ทั่วโลก ถึงแม้ว่าเกมเพลย์จะมีกำหนดปล่อยออกมาในสัปดาห์หน้า แต่เรายังสามารถดูทีเซอร์สั้นๆ 15 วินาทีที่โชว์ความสวยงามของภาพภายในเกมได้ด้านล่างครับ ก็หวังว่าช่วงเวลาที่ผู้พัฒนาเลื่อนไปนี้จะมากพอสำหรับการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของเกมนี้และมอบเกมดีๆ ให้กับเราได้ครับ Mafia: Definitive Edition จะวางจำหน่ายให้กับเครื่อง Xbox One, PS4, PC และ Google Stadia Credit: Gamingbolt
08 Jul 2020
Mafia: Definitive Edition จะให้คุณเพลิดเพลินไปกับการขับขี่ยานพาหนะไปรอบๆ เมือง
เมื่อเราขับรถในโลก Open World เรามักจะไม่สนใจกฏจราจร และขับรถเล่นอย่างอิสระ แต่นี่ไม่ใช่กับเมือง Lost Heaven ของ Mafia ที่การขับขี่อย่างประมาทนั้นจะดึงดูดความสนใจของตำรวจครับ Mafia: Definitive Edition ของ Hangar 13 ที่กำลังจะมานั้นได้ทำการปรับแต่งวิธีการหลบหลีกตำรวจที่ลาดตระเวนตามท้องถนน นี่เป็นหนึ่งใน Features ที่ทำให้ Mafia นั้นเป็น Open-world ที่โดดเด่น คุณ Haden Blackman ประธานของ Hangar 13 ได้พูดคุยกับ USGamer เกี่ยวกับสตูดิโอที่พยายามจะสร้างเล่ห์เหลี่ยมต่างๆ ให้คุณเลือกที่จะเล่นได้ในเนื้อเรื่อง มีตัวเลือกความยากเพิ่มขึ้นสองสามโหมด รวมถึงโหมดการขับขี่ยานพาหนะ ที่จะมีโหมดให้คุณสลับระหว่างแบบ Simulator กับอะไรสักอย่างที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า หนึ่งในเป้าหมายของเกมนี้ที่ได้ทำการพัฒนาขึ้นใหม่คือการให้ผู้เล่นเพลิดเพลินไปกับการขับรถรอบเมือง และใช้เวลาส่วนใหญ่ในเกมไปกับมัน เรื่องการยิงยังได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยขึ้น เราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของเกมได้ในไม่ช้า เพราะ Mafia: Definitive Edition จะเปิดให้เล่นในวันที่ 28 สิงหาคมนี้! Credit: PCGAMER
25 Jun 2020
เผยตัวอย่างใหม่ Mafia: Definitive Edition ผู้พัฒนาย้ำ !! เกมนี้สร้างใหม่หมดตั้งแต่พื้นดินขึ้นไปเลย
เปิดตัวอย่างเซอร์ไพรส์มาก่อนหน้านี้สำหรับ Mafia: Definitive Edition ที่เป็นการนำเกมเมื่อปี 2004 มาทำการ Remake ด้วยขุมพลังกราฟิกใหม่ และล่าสุดในงาน PC Gamer Show ทางผู้พัฒนายังบอกอีกว่าในเมืองของเกมนี้ได้ถูกสร้างใหม่ทั้งหมดตั้งแต่พื้นขึ้นไปเลยก็ว่าได้ โดยคุณ Haden Blackman ประธานของทางผู้พัฒนา Hangar 13 ได้ออกมากล่าวเอาไว้ว่า "ทุกอย่างของเกมนี้ถูกสร้างใหม่ทั้งหมด รายละเอียดต่างๆ, Cinematic แม้กระทั่งเกมเพลย์ ก็ถูกทำใหม่ แต่เราก็รักษาสิ่งสำคัญของเกมดั้งเดิมเอาไว้ด้วย แต่อย่างอื่นถูกสร้างใหม่ทั้งหมดตั้งแต่พื้นดินลงมาเลย" Lost Heaven เป็นเมืองที่อ้างอิงมาจากเมือง Chicago ในยุค 1930s รวมถึงในเกม Mafia มีระบบการขับขี่สุดเอกลักษณ์ที่คุณจะต้องเชื่อฟังการจราจรบนถนน ตัวเกมได้ทำการ ReDesign เมืองนี้ใหม่เพื่อให้คุณสนุกกับการขับรถ ขยายถนนให้กว้างขึ้นและลดมุม 90 องศาเพื่อให้คุณสามารถแล่นไปตามมุมต่างๆ ได้ ในเมือง Lost Heaven จะมีคนเยอะมาก เพราะสตูดิโอได้นำความมีชีวิตชีวาการปฏิสัมพันธ์ต่างๆ ที่มีใน Mafia 3 ไปในสร้างใหม่ รวมถึงตัวเนื้อเรื่องงของเกมนี้จะถูกปรับแต่งเล็กน้อย ทั้งบทสนทนาก็จะถูกเพิ่มเติมเพื่อใช้ตอกย้ำความคิดที่ว่าคุณเป็นฝ่ายพ่ายแพ้สงครามระหว่างแฟมิลี่ โดย Mafia: Definitive Edition  มีกำหนดวางจำหน่ายใน 29 สิงหาคม 2020 สามารถ Pre-Order ได้แล้วในราคา 959 บาท Credit: PC Gamer
13 Jun 2020
Mafia: Definitive Edition จะมีเนื้อเรื่อง, Cutscene และเกมเพลย์ใหม่ทั้งหมด
พึ่งจะประกาศอย่างเป็นทางการแบบสดๆ ร้อนๆ สำหรับ Mafia ภาคแรกที่วางจำหน่ายในปี 2002 จะถูกทำการ Remake ใหม่ทั้งหมดโดยใช้ชื่อว่า Mafia: Definitive Edition และล่าสุดก็มีรายละเอียดของเกมเผยออกมาว่า ตัวเกมเวอร์ชั่นนี้จะใช้ Engine ใหม่ในการสร้าง ทุกอย่างจะถูกทำใหม่หมดทั้งดนตรีประกอบ รวมถึงเนื้อเรื่องใหม่ที่จะถูกใส่เข้ามา พร้อมกับเกมเพลย์ที่จะขึ้นอยู่ตามที่คุณเล่น โดย COO ของทีมพัฒนา Hangar 13 อย่างคุณ Haden Blackman ได้ออกมาเปิดเผยว่า "เกม Mafia ภาคแรกสร้างผลกระทบมาอย่างยาวนาน เกี่ยวกับการเล่าเรื่องราวบนวิดีโอเกมที่เข้มข้นจริงจังได้ และเรารู้ว่าแฟนๆ ยังคงเชิดชูมันมากแค่ไหน โดย 20 ปีหลังจากปล่อยภาคนี้ เรามีโอกาสที่น่าอัศจรรย์อีกครั้งในการแนะนำเกมที่เรารักต่อคนรุ่นใหม่ เปิดโอกาสให้แฟนๆ ได้รู้จักเรื่องราวของ Tommy (ตัวเอก) ด้วยการนำเสนอที่ทันสมัยรวมถึงองค์ประกอบเรื่องราวและคุณสมบัติการเล่นเกมแบบใหม่” Credit: VG247 สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!  
20 May 2020
Mafia 2 และ 3 Definitive Editions มาแล้ว ส่วนภาค 1 Remake มา ส.ค นี้!
Mafia นั้นเป็นอีกหนึ่งในซีรีส์ที่มีชื่อเสียงมากในวงการ ตัวเกมมีทั้งหมด 3 ภาค ซึ่งมันก็นานแล้วตั้งแต่ที่เกมภาค 3 วางจำหน่าย แต่ยังไม่มีวี่แววของเกมภาค 4 เลย อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเราจะยังไม่ได้เล่นภาคต่อของซีรีส์เร็วๆ นี้ แต่เจ้าของเกมภาค 2 กับ 3 วันนี้สามารถเข้าไปเล่นเวอร์ชั่น Remaster ของทั้ง 2 ได้ฟรีครับ! Mafia 2 Definitive Editions นะเป็นเวอร์ชั่น Remaster ในขณะที่ Mafia 3 Definitive Editions จะเพิ่มความละเอียดแบบ 4K เข้ามาเท่านั้น ผู้เล่นที่เป็นเจ้าของเกม Mafia 2 ใน Steam สามารถอัพเกรดเป็น Definitive Editions ได้ฟรี ส่วน Mafia 3 นั้นจะสามารถอัพเกรดเป็น Definitive Editions ได้ฟรีทุกแพลตฟอร์มครับ อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจก็คือจะมีเกม Mafia: Definitive Edition ซึ่งเป็นเวอร์ชั่น Remake ของตัวเกมภาคแรก วางจำหน่ายช่วงปลายเดือน สิงหาคม นี้ด้วย ซึ่งในตัวเกมเวอร์ชั่นนี้จะมีทั้ง Cutscenes , เกมเพลย์, แมคคานิคในการเล่น, และอื่นๆ อีกมากมายถูกทำขึ้นใหม่ โดยผู้พัฒนาก็ไดเ้มีการปล่อย Trailer เปิดตัวออกมาแล้วด้วย สามารถรับชมได้ข้างล่างนี้เลยครับ Credit : GamingBolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
20 May 2020
GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
ผลการค้นหา : "Mafia: Definitive Edition"
รีวิว Mafia: Definitive Edition จุดเริ่มต้นของตำนานแห่งเกมมาเฟียอิตาลี
เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากๆ ในเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา เพราะว่าทาง 2K Games ได้ประกาศเปิดตัวโปรเจกต์สุดน่าสนใจนั่นคือ Mafia: Definitive Edition ที่ได้นำเอาเกมภาคแรกของซีรีส์นี้อย่าง Mafia: The City of Lost Heaven มายกเครื่องอัพเกรดกราฟิกใหม่ทั้งหมด โดยผู้พัฒนาเองก็ได้เคลมว่าพวกเขาสร้างเมืองนี้ใหม่ตั้งแต่ภาคพื้นดินเลยทีเดียว จนมันทำให้หลายๆ คนต่างสนใจและรอเล่นเกมนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งพวกเรา GameFever TH ก็ได้มีโอกาสในการเล่นเกมนี้จนจบแล้วและจะมารีวิวเกมนี้ให้ทุกท่านได้ทราบกันครับ กราฟิก / การนำเสนอ สิ่งที่ผู้พัฒนาได้บอกเอาไว้ว่าพวกเขานั้นสร้างเมือง Lost Heaven ใหม่ทั้งหมดนั้น ผู้พัฒนาเองไม่ได้ขี้โม้เลยแต่อย่างใด และส่วนตัวค่อนข้างประทับใจเป็นอย่างมาก เพราะผู้พัฒนาได้ดีไซน์เมืองนี้ใหม่เกือบทั้งหมดถึงแม้ว่าจะใช้แบบแปลนจากภาคเดิมในการพัฒนา อย่างที่เรารู้ว่า Mafia: Definitive Edition เกมนี้ได้ถูกสร้างมาจาก Engine ที่เคยใช้ในเกม Mafia III แต่หลังจากที่เคยได้เล่นเกมนี้มาทั้งคู่ต้องบอกเลยว่า Mafia: Definitive Edition ทำภาพได้สวยกว่ามาก เพราะผู้พัฒนาได้ใส่เทคโนโลยี Ray Tracing หรือการสะท้อนเงาวัตถุแบบ Real Time เข้ามา ทำให้บรรยากาศของเกมมีความสมจริงมากยิ่งขึ้น แต่ในด้านกราฟิกก็อาจจะมีปัญหาสำหรับคนที่คอมพิวเตอร์ไม่แรงอยู่เหมือนกัน เพราะว่าฟังชั่น Ray Tracing นี้จะติดมาตลอดกดปิดไม่ได้ โดยตัวผู้เขียนเองได้ใช้คอมพิวเตอร์สเปกกลางๆ อย่าง i5 - 8400 บวกกับการ์ดจอ GTX 1060 6GB ซึ่งมันพอเล่นได้แบบต่ำสุด (ในราวๆ 70 FPS) ซึ่งคาดว่าสเปกคอมพิวเตอร์ราวๆ นี้น่าจะเป็นสเปกต่ำสุดที่ผู้เขียนแนะนำถ้าอยากจะเล่นเกมนี้เพื่อประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมแบบไม่ตกหล่น แต่ข้อดีก็คือถึงแม้ว่าผู้เขียนจะปรับกราฟิกต่ำสุด แต่ก็ยังสามารถเห็นถึงความสวยงามของมัน รวมถึงปัญหาบัคเฟรมเรทตกไม่มีให้เห็นแต่อย่างใด ถือว่าผู้พัฒนาปรับปรุงในส่วนนี้ออกมาได้ดีมาก เนื้อเรื่อง เรื่องราวของซีรีส์ Mafia: Definitive Edition นั้นก็ค่อนข้างที่ทำได้ตรงตามเกมเวอร์ชั่นดั้งเดิมเป็นอย่างมาก กับเรื่องราวของ Tommy Angelo คนขับรถแท็กซี่ที่บังเอิญเข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์ไล่ล่าระหว่างแก๊งมาเฟีย เลยทำให้เขานั้นได้เข้าร่วมแฟมิลีของ Salieri ในที่สุดเพื่อโอกาสในความก้าวหน้าของชีวิต ซึ่งต้องยอมรับตามตรงว่าส่วนตัวผู้เขียนไม่ได้เคยเล่นเกมเวอร์ชั่นดั้งเดิมแบบจริงๆ จังๆ เลยสักครั้ง ไม่ได้สนใจเนื้อเรื่องมันเท่าที่ควรในตอนนั้น ( แถมเล่นไม่จบด้วย ) แต่หลังจากที่ได้ลองเกมนี้จนจบ และเคยเล่นเกมซีรีส์นี้ในทุกภาคก็ต้องบอกว่า Mafia: Definitive Edition ทำเนื้อเรื่องออกมาได้ดีที่สุดจากในมุมมองของผู้เขียนเอง เพราะตัวเกมนำเสนอเรื่องของความสัมพันธ์ สิ่งที่กล้ำกลืนฝืนทนที่จะต้องทำเพื่องาน หรือแม้กระทั่งการนำเสนอเรื่องของสงครามระหว่างแก๊งที่ตัวเกมภาคนี้นำเสนอออกมาได้ดี แต่เนื่องจากที่เกมนี้ ผู้พัฒนาไม่ได้ตกแต่งโครงเรื่องใหม่แต่อย่างใด ทำให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นอาจจะดูรวบรัดตัดจบไวเกินไปหน่อย เพราะในสมัยก่อนตัวเกมลงให้กับเครื่อง PS2 มันอาจจะไม่มีพื้นที่ในการจุเนื้อหาเยอะ เพราะเกมน่าจะเอาไปลงกับกราฟิกหมด ทำให้มันมีการเล่าเรื่องที่ประหลาดๆ หรือทื่อๆ ไปซักนิด ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายอยู่เหมือนกัน เพราะส่วนตัวอยากให้ผู้พัฒนาเพิ่มเติมหรือขยายความเรื่องราวให้มากกว่านี้โครงเรื่องของมันค่อนข้างดีมากๆ เลยทีเดียว เกมเพลย์ เบื่อไหมในเกมเก่าๆ ของซีรีส์ Mafia ที่การขับรถนั้นมันบังคับยากเสียเหลือเกิน และปัญหานี้มันก็เรื้อรังมาในทุกภาค แต่ผิดกับเกม Mafia: Definitive Edition ที่ผู้พัฒนาปรับปรุงระบบการขับรถให้ผู้เล่นได้รับประสบการณ์ได้ดีมากยิ่งขึ้น Lost Heaven ถูกดีไซน์ใหม่ ให้พื้นที่เลนถนนมีความกว้างกว่าเดิมหลายเท่า ทำให้มีพื้นที่ตีวงตอนเลี้ยวรถได้กว้างกว่าเดิม รวมถึงผู้พัฒนายังเพิ่มระบบช่วยบังคับรถที่มันจะคำนวนการเลี้ยวรถให้เราได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งมันส่งผลทำให้เราสามารถเลี้ยวรถด้วยความเร็วๆ 80-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแบบไม่ต้องชะลอรถได้สบายๆ (แต่ถ้าเร็วเกินไปรถก็อาจจะพลิกได้เหมือนกัน) แต่ถ้าใครที่ไม่อยากได้ตัวช่วยขับรถเกมนี้ก็ยังมีตัวเลือกการขับรถแบบสมจริงที่เหมือนกับในภาคก่อนๆ อยู่เช่นเดิม ส่วนในเรื่องเกมเพลย์ก็ต้องบอกเลยว่าตัวเกมก็จะมีระบบการเล่นที่เหมือนกับเกม Open World ทั่วไป ซึ่งมันไม่ได้มีความแปลกใหม่ไปจากเดิมเท่าไร อาจจะมีบางภารกิจหรือตัวเลือกที่น่าสนใจให้เล่นบ้างอย่างเช่นภารกิจหนึ่งที่เราจะต้องเข้าไปปิดปากสาวโสเภณีที่ดันไปรู้ความลับบางอย่างเข้า ซึ่งเราจะต้องค้นหาเองว่าเธอนั้นอยู่ในห้องไหน โดยเราสามารถเดินหาที่ละห้องจนกว่าจะเจอ หรือไม่เราก็อาจจะไปถามกับทางบริกรว่าเธออยู่ตรงไหน หรือจะแอบเข้าไปดูสมุดบัญชีลิสต์งานก็ได้ เพียงแต่ว่าสิ่งที่น่าเสียดายคือเราเองไม่ได้เห็นเกมการเล่นแบบนี้เยอะนัก ส่วนใหญ่ก็จะมีแค่การขับรถไล่ล่าหรือยิงศัตรูเท่านั้น มันเลยทำให้ตัวผู้เขียนเองรู้สึกผิดหวังกับมันอยู่พอสมควร เพราะนอกจากกราฟิกที่สวยงามแล้วนั้นเราแทบไม่ได้เห็นอะไรใหม่เลย แต่ตัวเกมก็ยังมีระบบที่เข้ามาท้าทายผู้เล่นแทนนั่นคือโหมด Classic ที่จะเป็นความยากระดับสูงสุด ผู้เล่นต้องบังคับรถในโหมดดั้งเดิมเท่านั้น Radar ในศัตรูจะไม่ปรากฏ รวมถึงกล่องเพิ่มเลือดก็จะฟื้นฟูได้น้อยกว่าเดิม ซึ่งเราจะต้องทำการฝึกฝน และต้องต่อสู้กับความยากนี้ไปทีละด่าน ซึ่งมันก็สามารถสร้างความท้าทายได้ดี และอีกสิ่งที่น่าผิดหวังอีกเรื่องก็น่าจะเป็นระบบ Open World  ของมันที่ถูกสร้างมาแล้วไม่ได้เกื้อกูลกับเกมเพลย์หลักแต่อย่างใด เพราะในเวลาเล่นโหมดแคมเปญอยู่ การดำเนินเรื่องของเกมนี้จะเหมือนเป็นเกมเนื้อเรื่องที่ใส่องค์ประกอบโลกเปิดมาเท่านั้น เพราะนอกจากการขับรถเล่นในโหมด Free Ride แล้ว เราไม่สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์ใดๆ เกี่ยวกับโลกที่เขาสร้างนอกจากการขับรถเล่นได้เลย ตัวเกมไม่มีระบบค่าเงิน ไม่มีร้านค้าให้เราได้ไปหาซื้อเสื้อใหม่ๆ ใส่ หรือกิจกรรมสนุกๆ ไม่มีเลยจริงๆ !! ในตอนที่จบภารกิจตัวเกมก็ไม่ได้ให้อิสระเราในการขับรถเที่ยวเล่นเลยสักครั้ง แต่จะบังคับให้ขึ้นบทต่อไปและทำภารกิจทันที ส่วนตัวคิดว่านี่น่าจะเป็นข้อเสียหายอันร้ายแรงที่อาจจะทำให้คนวิจารณ์ด้านลบเกี่ยวกับเกม Mafia: Definitive Edition ก็เป็นได้ แต่จากผมเองได้ลองดูราคาของเกมนี้ที่ผู้พัฒนาวางจำหน่ายเพียงแค่ 959 บาท เท่านั้น มันก็ทำให้ตัวผมเองถึงบ้างอ้อทันทีว่า ทำไมพวกเขาถึงตั้งชื่อเกมนี้ว่า Mafia: Definitive Edition เพราะโดยรามแล้วเราจะพูดว่ามันเป็นเกม Remake เต็มรูปแบบก็ไม่ได้ เพราะในด้านเกมเพลย์และโครงสร้างของมันแทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลย แต่จะให้พูดว่า Remastered ก็อาจจะทำได้ดีกว่า เกมนี้เหมือนกับเป็นโปรเจกต์เล็กๆ ที่ผู้พัฒนาทำออกมาเพื่อคั่นเวลาในระหว่างที่พวกเขาเตรียมตัวสร้างโปรเจกต์ใหญ่กว่านี้ก็เป็นได้ สรุป โดยรวมแล้ว Mafia: Definitive Edition นอกจากกราฟิกที่ทำออกมาได้ดีงามแล้วนั้น ตัวระบบเกมเพลย์เองกลับไม่ได้มีอะไรที่แปลกใหม่ไปกว่าเดิมเลย เหมือนเป็นโปรเจกต์คั่นและทดลองในระหว่างการรองานที่ใหญ่กว่านี้ ผู้พัฒนาถึงได้ขายเกมนี้ในราคาที่ถูกกว่าเกม AAA ทั่วไปกว่า 50% แต่ถ้าให้ถามว่าตัวเกมมันโอเคไหม ส่วนตัวก็ยังบอกว่ามันก็ยังเป็นเกมที่สนุกเล่นได้เพลินๆ เพราะเนื้อเรื่องของเกมที่พอจะน่าติดตาม กราฟิกที่สวยงาม รวมถึงระบบการต่อสู้ที่ถึงแม้ว่ามันจะเก่าแก่แล้ว แต่มันก็สามารถสร้างความสนุกให้เหล่าผู้เล่นได้อยู่ดี Mafia: Definitive Edition ไม่ใช่เกมแย่ แต่ก็พูดได้ไม่เต็มปากว่ามันคืองาน Masterpiece อาจจะเป็นเกมที่ทำให้คุณหายคิดถึงเกมซีรีส์นี้หลังจากที่พวกเขาไม่ได้ออกภาคใหม่มากว่า 4 ปี กับราคาที่สบายกระเป๋ายังไงเกมนี้ก็คู่ควรแก่ในการซื้อมาเล่น แต่ย้ำไว้ก่อนว่าอย่าไปคาดหวังกับมันไว้เยอะอย่างผมก็พอ สั่งซื้อเกม - https://store.steampowered.com/app/1030840/Mafia_Definitive_Edition/ [penci_review id="68411"]
24 Sep 2020
เตรียมกลับสู่วิถีชีวิตชาวแก๊ง!! Mafia: Definitive Edition เผยความต้องการของระบบ PC แล้ว
ใกล้จะได้เวลากลับเข้าสู่วิถีชีวิตชาวแก๊งอีกครั้งกับเกม Mafia: Definitive Edition เกมดังกล่าวคือเกมที่พัฒนาขึ้นใหม่ ปรับปรุงกราฟิกให้สวยงามขึ้นกว่าภาคดั้งเดิมจนเรียกได้ว่าอยู่กันคนละมิติ แน่นอนว่านี่คือเกมที่จะลงให้กับเวอร์ชั่น PC ด้วย ดังนั้นหากต้องการภาพที่สวยงามในระดับสูงสุดที่ตัวเกมทำให้ได้ คุณก็ต้องใช้เครื่อง PC ที่มีคุณภาพไม่น้อย สามารถเช็คความต้องการของระบบ PC ได้ด้านล่างครับ MINIMUM SPECS OS – Windows 10 64-bit DirectX: Version 11 Processor – Intel Core-i5 2550K 3.4GHz / AMD FX-8120 3.1GHz Memory – 6GB RAM Graphics card – NVIDIA GeForce GTX 660 / AMD Radeon HD 7870 HDD – 50 GB RECOMMENDED SPECS OS – Windows 10 64-bit DirectX: Version 11 Processor – Intel Core-i7 3770 3.4GHz / AMD FX-8350 4.2GHz Memory – 16GB RAM Graphics card – NVIDIA GeForce GTX 1080 / AMD Radeon RX 5700 HDD – 50 GB อย่างที่เห็นว่าในสเปคขั้นแนะนำนั้นมีความต้องการของระบบที่สูงนิดหน่อยครับ แต่ในส่วนของขั้นต่ำนั้นคาดว่าแฟนๆ แทบทุกคนคงเล่นได้แบบสบายๆ เลย Mafia: Definitive Edition  จะวางจำหน่ายในวันที่ 25 กันยายน สำหรับเครื่อง PlayStation 4, Xbox One และ PC Credit: Gamingbolt
16 Sep 2020
Mafia: Definitive Edition โชว์วิถีชีวิตของชาวแก๊งในตัวอย่างใหม่!
2K Games ได้ปล่อยเทรลเลอร์ใหม่ของเกม Mafia: Definitive Edition ออกมาอีกครั้งเนื่องจากใกล้ได้เวลาที่ตัวเกมจะวางจำหน่ายแล้วนั่นเอง และจากในวิดีโอดังกล่าวนั้นพวกเขาก็ได้โชว์รายละเอียดใหม่ๆ เกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาเปลี่ยนแปลงไปจากเกมต้นฉบับ วิดีโอดังกล่าวมีความยาวไม่ถึงหนึ่งนาทีแต่ก็ทำให้เราเห็นว่าภายในเกมนี้เราจะได้ทำอะไรในฐานะของ Tommy Angelo ผู้ซึ่งดำดิ่งลงสู่วิถีชีวิตของชาวแก๊ง ตั้งแต่การยิงประจัญบานไปจนถึงการปล้นและขับรถไล่ล่าที่ดุเดือด ตัวอย่างใหม่นี้มีสิ่งใหม่ๆ ให้คุณได้ดูในวิดีโอด้านล่างครับ Mafia: Definitive Edition จะวางจำหน่ายให้กับเครื่อง PlayStation 4, Xbox One และ PC ในวันที่ 25 กันยายน นี้โดยแพลตฟอร์ม PC วางจำหน่ายทั้งใน Steam และ Epic Games Store ครับ Credit: Gamingbolt
11 Sep 2020
Mafia: Definitive Edition ปล่อยวิดีโอตัวอย่างเนื้อเรื่องอย่างเป็นทางการแล้ว!!
อย่างที่เรารู้กันว่า Mafia: Definitive Edition จะมาโชว์วิดีโอตัวอย่างเนื้อเรื่องอย่างเป็นทางการในงาน Gamescom: Opening Night Live ซึ่งมันเป็นตัวอย่างเนื้อเรื่องที่มีความยาวไม่ถึงสองนาทีครับ จากในวิดีโอตัวอย่างเนื้อเรื่องนั้นจะเริ่มโดยการโชว์ชื่อของเมืองที่เกมนี้จะดำเนินเหตุการณ์ ซึ่งแน่นอนว่าเมืองดังกล่าวนั้นก็หนีไม่พ้น Lost Heaven แน่นอนอยู่แล้ว เจ้าตัววิดีโอนี้ก็ไม่ได้บอกเล่าอะไรมากนักนอกเสียจากการโชว์ตัวละครที่คุ้นหน้าคุ้นตาเหล่าผู้เล่นที่เคยได้สัมผัสเกม Mafia ฉบับดั้งเดิมกันมาแล้ว นอกจากนี้ก็คือการโชว์กราฟิกภายในเกมที่ได้รับการอัปเกรดมาแล้วนั่นเองครับ Mafia: Definitive Edition วางจำหน่ายในวันที่ 25 กันยายน 2020 ให้กับเครื่อง Xbox One, PlayStation 4 และ PC
27 Aug 2020
Mafia: Definitive Edition ปล่อยวิดีโอพรีวิวโชว์โลก, เกมเพลย์, และอื่นๆ
ถึงแม้ว่าเป็นเรื่องน่าเศร้าที่ Mafia: Definitive Edition ที่ต้องถูกเลื่อนวันสางจำหน่ายออกไป แต่อย่างน้อยในวันนี้เราก็ได้เห็นพรีวิวจากสื่อต่างๆ ทั่วโลกแล้วครับ (อ่านของพวกเราได้ผ่านลิงก์นี้) ซึ่งแน่นอนว่ามีการปล่อยวิดีโอออกมาจากสื่อบางเจ้าด้วยเช่นยกัน ที่น่าสนใจคือวิดีโอที่ว่าได้โชว์ให้เราเห็นเกมเพลย์มากมายเลยครับ จากวิดีโอที่ปล่อยออกมานั้น ทำให้เราสามารถสรุปได้ว่า เกมนี้คือภาค Remake ของเกม Mafia ภาคแรก ที่วางจำหน่ายเมื่อนานมาแล้ว ซึ่งในการ Remake ครั้งนี้มีการใช้เอ็นจิ้นใหม่ในการพัฒนา รวมถึงมีการปรับปรุงแสง, ภาพ กับกราฟิกใหม่ พร้อมทั้งใส่ระบบเกมเพลย์ใหม่ๆ เข้าไปด้วย กระทั้งคัทซีนใหม่ก็มีการเพิ่มเข้ามาเช่นกัน รับชมวิดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้เลยครับ Mafia: Definitive Edition จะวางจำหน่ายในวันที่ 25 กันยายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC Credit: GamingBolt
27 Aug 2020
พรีวิว Mafia: Definitive Edition ยกเครื่องดีไซน์ใหม่ด้วยงานที่ละเมียดขึ้น
Mafia คือหนึ่งในซีรีส์ที่รู้ตัวอีกทีก็อยู่กับเรามาก็ราวๆ 18 ปีแล้วนะครับตั้งแต่เกม Mafia: The City of Lost Heaven วางจำหน่ายออกมาในปี 2002 ซึ่งสิ่งที่ทำให้ซีรีส์นี้ถูกพูดถึงอยู่ตลอดเวลาก็คงจะเป็นการนำเสนอเรื่องราวของโลกมาเฟีย การแก้แค้น การหักหลังที่สร้างออกมาได้อย่างลงตัว แต่เนื่องจากยุคสมัยนี้มันก็อาจจะเป็นเรื่องยากที่จะให้เกมเมอร์รุ่นใหม่ได้เข้าไปสัมผัสเกมภาคแรกที่ทางทีมพัฒนา Illusion Softworks สร้าง เนื่องจากที่เกมเพลย์หรือกราฟิกมันค่อนข้างตกยุคไปแล้ว โดยทางต้นสังกัดอย่าง 2K Games เองก็น่าจะเล็งเห็นในจุดนี้ และมองว่ามันน่าจะถึงเวลาแล้วที่เหล่าแฟนๆ เกมซีรีส์ Mafia จะได้เข้าไปสัมผัสมันอีกครั้ง ด้วยการ Remake เกมนี้โดยทีม Hanger 13 (ทีมที่สร้าง Mafia III) จนกลายมาเป็น Mafia: Definitive Edition ที่ทำการยกเครื่องระบบการเล่นใหม่ทั้งหมด ทั้งกราฟิกที่ใช้ขุมพลังเดียวจากเกม Mafia III ซึ่งใครที่เคยเล่นก็น่าจะรู้ถึงความสวยงามของมัน บวกกับการแก้ปัญหาระบบขับรถที่น่าขัดใจของเกมภาคก่อนๆ อีกด้วย โดย Mafia: Definitive Edition มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 25 กันยายน 2020 นี้ บนเครื่อง PC, PS4 และ Xbox One  แต่พวกเรา GameFever TH เองได้มีโอกาสเข้าไปทดลองเล่นเกมนี้ในช่วง 5 Chapter แรกและจะมาพรีวิวสั้นๆ เกี่ยวกับตัวเกมนี้ให้ทุกท่านได้ทราบกันว่า Mafia: Definitive Edition มีอะไรใหม่ๆ ที่น่าสนใจบ้าง ดำดิ่งในเมือง Lost Heaven ด้วยกราฟิกใหม่ทั้งหมด ในด้านของกราฟิกอย่างที่กล่าวไปว่า Mafia: Definitive Edition ได้นำเอา Engine ในภาค Mafia III มาใช้ ผู้พัฒนาได้ออกแบบโครงสร้างของเมือง Lost Heaven ใหม่ให้ดูสวยงามตามยุคสมัยนี้ ถึงแม้ว่ารูปแบบผังเมืองจะมีโครงสร้างที่เหมือนกัน แต่ผู้พัฒนาได้สร้างโลกของมันได้มีชีวิตชีวามากขึ้น มีรถและคนสัญจรตามท้องถนนจำนวนพอๆ กับเกม Mafia III เลยทีเดียว บวกกับรถใหม่ๆ อย่างรถมอเตอร์ไซต์ที่ถูกนำเข้ามาในภาคนี้เป็นภาคแรกของซีรีส์เลยทีเดียว การดีไซน์ Cutscene เองก็ทำออกมาได้ค่อนข้างละเมียดละไมกว่า Mafia III อยู่พอสมควร จากที่ได้ทดลองเล่นไปทั้งหมด 5 Chapter ส่วนตัวไม่เคยเห็นงานเผาของผู้พัฒนาเหมือนที่เคยทำในภาคก่อนหน้าเลย ใครที่เคยเล่น Mafia III ก็น่าจะเคยเห็นฉากรับภารกิจที่ตัวละครเรายืนคุยกับ NPC นิ่งๆ ที่ทำให้รู้สึกนึกว่านี่มันเกมสมัยเมื่อ 10 ปีที่แล้วหรือเปล่า แต่สำหรับ Mafia: Definitive Edition ตัดปัญหาได้หมด ทั้งการปั้นโมเดลและท่าทางของตัวละครที่สมจริงเป็นอย่างมาก บวกกับโหมดภารกิจที่ถึงแม้ว่าเค้าโครงการเล่าจะยังเหมือนกับเกมต้นฉบับ แต่ทว่าระบบการเล่นภายในนั้นผู้พัฒนาก็ได้ใส่รายละเอียดของเกมเพลย์ให้มากขึ้น ยกตัวอย่างในภารกิจที่ชื่อว่า Running Man ที่เราจะต้องหนีจากการตามล่าโดยเหล่าคู่อริ ซึ่งในเวอร์ชั่นปัจจุบันก็ยังเป็นเหมือนกันเพียงแต่ว่าในระหว่างการหนี ตัวเกมจะมีลูกเล่นให้เราได้เล่นมากขึ้นเช่นการปีนป่ายกำแพงตามบ้านต่างๆ ที่ในเวอร์ชั่นปกติไม่มีให้เล่น หรือจะเป็นการเล่าเรื่องภายในที่จะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย และอีกหนึ่งสิ่งที่มันขาดไม่ได้สำหรับ Mafia ก็คงจะเป็นเพลงบรรเลงที่สอดคล้องตามยุคสมัยนั้น ซึ่งโลกของ Mafia: Definitive Edition จะดำเนินอยู่ในยุคปี 30s ที่เพลงแนว Jazz เริ่มที่จะได้รับความนิยมมากขึ้น ซึ่งผู้พัฒนาเองก็ได้ทำการเรียบเรียงดนตรีใหม่ ที่ถึงแม้ว่าซาวด์ดนตรีจะยังคงแนว Jazz ไว้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ได้มันก็ได้กลิ่นอายความทันสมัยจากเทคโนโลยีห้องอัดในสมัยนี้ได้มากขึ้น ระบบขับรถ หนึ่งในปัญหาที่หลายๆ คนน่าจะปวดขมับกับเกมซีรีส์ Mafia ก็คงจะหนีไม่พ้นการบังคับรถที่ค่อนข้างบังคับพวงมาลัยได้ยาก ซึ่งเอาจริงๆ มันก็สมเหตุสมผลนะเพราะดีไซน์ของยานพาหนะในสมัยนั้นจะค่อนข้างใหญ่และน่าจะมีน้ำหนักที่มากกว่าสมัยนี้มาก การตีโค้งรถต่างๆ ก็คงจะไม่ต่างกับการบังคับรถบรรทุกเสียเท่าไร แต่ในเกม Mafia: Definitive Edition ก็ได้แก้ปัญหาตรงนี้ได้ในระดับหนึ่ง นั่นคือการดีไซน์โลกของเมือง Lost Heaven ที่ทำให้เลนบนท้องถนนมีความกว่างมากกว่าเกมเวอร์ชั่นต้นฉบับ และเกมภาคอื่นๆ มากอยู่พอสมควร ซึ่งมันทำให้ผู้เล่นนั้นมีพื้นที่ในการตีโค้งเลี้ยวรถได้มากขึ้นกว่าเดิมเยอะ เราสามารถเลี้ยงความเร็วรถในระดับหนึ่งและทำการตีโค้งโดยไม่ชนได้อย่างสบายๆ (แต่ถ้าความเร็วรถมันเร็วเกินไป ก็ยังชนอยู๋ดี) แต่ถ้าใครยังคิดว่าการเลี้ยวรถมันยังยากอยู่ ผู้พัฒนาก็ยังใส่โหมดการขับรถที่ชื่อว่า Regular ที่มันจะทำให้พวงมาลัยของเราบังคับง่ายขึ้น รถที่หนักก็จะตีวงได้ง่ายกว่าเดิม หรือรถบางคันที่น้ำหนักเบาตีโค้งเกินไปรถจะพลิก ตัวเกมก็จะคำนวนไม่ให้มันเลี้ยวง่ายจนตูดรถสะบัดสามตลบแน่นอน ซึ่งส่วนตัวคิดว่าใครที่เล่นเกมภาคนี้ท่านน่าจะชอบระบบการขับรถเป็นแน่ !! เกมเพลย์การต่อสู้ และโหมด Classic หลายๆ ท่านก็อาจจะเคยเห็นตัวอย่างเกมเพลย์ที่ผู้พัฒนาเคยปล่อยออกมาบ้างแล้ว (ไม่เคยดู คลิ๊ก) ตัวเกมมีระบบหลบตามกำแพงเพื่อบังกระสุน ซึ่งมันก็เหมือนๆ กับเกม Openworld ทั่วไป แต่ผู้พัฒนาก็ยังใส่รายละเอียดของความเป็นเกมต้นฉบับเข้ามาดั่งเดิม อย่างเช่นระบบเลือดของเกมที่จะ Regen เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น เราจะต้องเก็บ Health Pack เพื่อเติมเลือดเอง เป็นการผสมผสานเกมเพลย์รูปแบบเก่ากับใหม่ได้ดี รวมถึงตัวเกมก็ยังมีระบบที่เข้ามาสร้างสีสันให้กับ Mafia: Definitive Edition มากขึ้นและทำให้มันดูน่าสนใจขึ้นเป็นกอง นั่นก็คือโหมดที่ชื่อว่า Classic ซึ่งถือว่าเป็นโหมดยากสุดของเกมก็ว่าได้ และค่อนข้างท้าทายต่อผู้เล่นในทุกภารกิจเลยทีเดียว เพราะว่านอกจากที่เราจะโดนศัตรูยิงเจ็บได้ง่ายแล้วนั้น จุด Mark ของศัตรูสีแดงในแผนที่ก็จะถูกลบออก เราจะต้องสังเกตุเองว่าศัตรูอยู่ตรงไหน ระบบช่วยขับรถต่างๆ ก็จะถูกปิดทำให้เราบังคับรถได้ยากขึ้น การ Regen เลือดก็จะน้อยลง หรือการเก็บ Health Pack ก็จะฟื้นเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น และนอกจากความท้าทายในเรื่องของข้อจำกัดแล้ว การดีไซน์โหมด Classic ผู้เล่นอาจจะต้องฝึกฝนอย่างหนักเพื่อที่จะผ่านภารกิจหนึ่งภารกิจเลยทีเดียว ยกตัวอย่างในภารกิจที่ชื่อว่า Fair Play ที่เรานั้นจะต้องขโมยรถสุดแรงของคู่แข่งไปทำการปรับแต่งให้เครื่องยนต์พัง และเราจะต้องขับรถข้ามเมืองด้วยเวลาเพียงแค่ 2 นาทีเท่านั้น (ถ้าเป็นโหมดอื่นเวลาจะนานขึ้น) ซึ่งถ้าหากเราจะขับรถไปให้ถึงทางที่กำหนดผู้เล่นจะต้องเหยียบคันเร่งให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ บวกกับการที่เราห้ามชนหรือรถพลิกแม้แต่ครั้งเดียว (ไม่งั้นเวลาไม่พอ) และอย่างที่กล่าวไปว่าในโหมดนี้ผู้เล่นจะไม่มีระบบช่วยการควบคุมแต่อย่างใด การขับรถสุดแรงพอเลี้ยวนิดเดียวรถก็สะบัดพลิก 3 ตลบแล้ว !! ผู้เล่นจะต้องใช้ความฝึกฝนการในขับรถนั้นให้ชำนาน อาจจะต้อง Game Over ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อผ่านมันไปให้ได้ แต่จากที่ได้ลองมาก็ต้องบอกว่าภารกิจมันยากก็จริง แต่มันก็ไม่ได้ยากจนเกินไป เพราะส่วนตัวก็ผ่านมันมาได้ (แต่อย่างทุลักทุเล) Mafia: Definitive Edition เป็นเกมฉบับ Remake ที่ต่อยอดและแก้ไขจุดด้อยจากเกมภาคก่อนๆ หน้าเป็นอย่างดี งานด้านดีไซน์ทั้งเกมเพลย์และกราฟิกก็ค่อนข้างทำได้ละเมียดละมัยมากขึ้น บวกกับราคาของเกมเพียงแค่ 959 บาท (ราคาบน Steam) ซึ่งถือว่าถูกมากๆ ถ้าให้เปรียบเทียบกับเกมในสมัยนี้ และมันน่าจะเป็นซีรีส์ที่กลับมาเรียกกระแสของเกม Mafia อีกครั้ง
26 Aug 2020
เตรียมรับชมตัวอย่างใหม่จาก Mafia: Definitive Edition ได้ในงาน Gamescom
กำลังจะกลับมาให้เราสัมผัสกันอีกครั้งเร็วๆ นี้กับเกม Mafia: Definitive Edition ซึ่งนับว่าน่าเสียดายที่สุดท้ายต้องเลื่อนวันวางจำหน่ายออกไปเป็นช่วงเดือนหน้าแทน อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่า ก่อนที่เกมจะวางจำหน่าย เราจะได้ดูตัวอย่างใหม่ที่โชว์เนื้อเรื่องของเกมก่อนในงาน Gamescom ที่กำลังจะมาครับ! Twitter ของ Mafia: Trilogy ได้มีการโพสต์ข้อความใหม่ว่า ภายในงาน Gamescom ที่กำลังจะมาคืนพรุ่งนี้ จะมีการปล่อยวิดีโอตัวอย่างใหม่ โชว์เนื้อเรื่องของเกมภาคนี้ด้วย แน่นอนว่าในตัวเกมภาค Remake นี้ ไม่ได้มีการเปลี่ยนเนื้อเรื่องให้แตกต่างออกไปจากเดิมมากมายอะไร แต่มันก็ยังน่าตื่นเต้นอยู่ดีที่จะได้เห็น Footage ใหม่ๆ ของเกมนี้ครับ Mafia: Definitive Edition จะวางจำหน่ายในวันที่ 25 กันยายน 2020 นี้ ทั้งบนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC Tune in to @Gamescom’s #OpeningNightLive for the next Mafia: Definitive Edition narrative trailer! Watch live 8 pm CEST / 2 pm ET / 11 am PT at https://t.co/XQkWlS7Ejp pic.twitter.com/7kL7H6ozn8 — Mafia: Trilogy (@mafiagame) August 24, 2020 Credit: GamingBolt 
26 Aug 2020
ผู้พัฒนา Mafia: Definitive Edition อธิบายถึงความยากระดับคลาสสิกว่ามันคืออะไร
Mafia: Definitive Edition ของทีมพัฒนา Hangar 13 จะวางจำหน่ายในเดือนหน้าและดูเหมือนว่าการรีเมคในครั้งนี้จะทำให้แฟนๆ ทึ่งไปกับการพัฒนาของมัน เกมนี้มีสิ่งใหม่ๆ เพิ่มเข้ามามากมายเช่น ระบบจัดแสงแบบใหม่และฉาก Cinematics ที่สร้างขึ้นใหม่นั่นเอง นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกระดับความยากหลายระดับ แต่สำหรับผู้เล่นที่ชอบความท้าทายก็สามารถเลือกความยากระดับคลาสสิกได้ และจากในประกาศความยากระดับคลาสสิกเป็นการถ่ายทอดประสบการณ์ของเกมมาเฟียภาคเก่า คุณ Prakash Choraria ผู้ออกแบบระบบเกมอาวุโสของ Hangar 13 กล่าวว่า "ด้วยความยากระดับคลาสสิก เราต้องการมอบบางสิ่งที่ผู้เล่นรู้สึกประสบความสำเร็จเมื่อเอาชนะได้ ขณะเดียวกันก็ทำให้ผู้เล่นรู้สึกชีวิตราบรื่นก่อนจะเจอกับบางอย่างขวางทางจนรู้สึกหงุดหงิด ยกตัวอย่างก็การเข้าร่วมการแข่งในภารกิจ Fair Play เป้าหมายของเราในการตั้งค่าความยากของเกม Mafia: Definitive Edition คือการทำให้มันง่ายขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อยเนื่องจากผู้เล่นหลายคนติดขัดและไม่สามารถชนะภารกิจในเกมได้ ในความยากระดับคลาสสิกมันก็ยังคงค่อนข้างยาก แต่ก็สามารถเอาชนะได้ด้วยความอดทนและฝึกฝน" ตัวช่วยในการขับรถนั้นแทบจะไม่มีเมื่อเทียบกับการตั้งค่าอื่นๆ ในความยากระดับคลาสสิก และคุณจะไม่เห็นสัญญาณในเกมที่เอาไว้บอกว่าต้องไปที่ไหน ส่วนทางตำรวจนั้นพวกเขาจะลงโทษคุณอย่างเป็นธรรมสำหรับอาชญากรรมเล็กๆ น้อยๆ และ "มันจะไม่มีความผิดที่เล็กเกินไป" Choraria กล่าว การขับรถเกินขีดจำกัดความเร็วเพียงเล็กน้อยคุณก็ต้องหยุดรถเสียค่าปรับเพื่อหยุดสถานการณ์ไม่ให้มันบานปลาย หากผู้เล่นยังยืนกรานที่จะไม่สนกฏหมายตำรวจก็จะตามจับคุณและตั้งสิ่งกีดขวางมาดักผู้เล่น ยานพาหนะในเกมนั้นบอบบางพอที่ตำรวจจะจับคุณได้ง่ายๆ และความยากอีกอย่างของระดับความยากคลาสสิกคือ ถ้าผู้เล่นรีโหลดกระสุนปืน Tommy โดยในแม็กกาซีนเหลือกระสุนอยู่ 38 นัด กระสุนที่เหลือในแม็กกาซีนก็จะหายไปทั้งหมด นอกจากนี้การฟื้นฟูเลือดอัตโนมัติก็จะเพิ่มให้เพียง 20 เปอร์เซ็นต์ของพลังชีวิตทั้งหมดในขณะที่ First Aid จะฟื้นฟูน้อยกว่าความยากระดับอื่นๆ แต่ถ้าหากคุณเล่นระดับความยากนี้แล้วรู้สึกว่ารับไม่ไหวก็สามารถเปลี่ยนระดับความยากได้ทุกเมื่อ แต่มันมีถ้วยรางวัลและความสำเร็จของการจบเกมนี้ด้วยระดับความยากคลาสสิกด้วย เพื่อเป็นรางวัลแก่มาเฟียตัวจริง Mafia: Definitive Edition จะวางจำหน่ายในวันที่ 25 กันยายน สำหรับเครื่อง Xbox One, PlayStation 4 และ PC Credit: Gamingbolt
20 Aug 2020
สัมภาษณ์ผู้กำกับเกม Mafia: Definitive Edition "จุดเริ่มต้นใหม่ของเกมเจ้าพ่อรุ่นเก๋า"
แม้จะไม่ได้เป็นที่นิยมแพร่หลายในระดับเดียวกับเกมโลกเปิดหลายๆ เกมที่เกิดในยุคเดียวกัน โดยเฉพาะหลังการวางจำหน่ายของเกมภาคล่าสุดอย่าง Mafia III ที่ได้รับเสียงตอบรับไม่ดีนักทั้งจากนักวิจารณ์และผู้เล่น แต่เกม Mafia ภาคแรกก็ยังถือเป็นหนึ่งในเกมโลกเปิดรุ่นเก๋า ที่ยังคงมีกลุ่มแฟนที่เหนียวแน่นอยู่จนถึงทุกวันนี้ ด้วยเนื้อเรื่องที่เข้มข้นน่าติดตาม ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณของสื่อแนวมาเฟียไม่แพ้ผลงานในตำนานอย่าง The Godfather เลยทีเดียว     เกือบ 20 ปีหลังจากที่เกม Mafia ภาคแรกวางจำหน่ายไปในปี 2002 ล่าสุดทางผู้พัฒนา Hangar 13 ก็ได้คืนชีพเกม Mafia ภาคแรกขึ้นมากอีกครั้งในฐานะเกม Mafia: Definitive Edition ที่นำเอาเกมเจ้าพ่อยุคเก๋ามาเล่าใหม่ด้วยเทคโนโลยีของยุคปัจจุบัน พร้อมกับระบบเกมเพลย์ กราฟิก และบททีเขียนขึ้นใหม่ทั้งหมด เพื่อเล่าเนื้อเรื่องของมาเฟียจำเป็น Tommy Angelo และการเอาตัวรอดบนหนทางมาเฟียของเขา     ก่อนที่เกมจะวางจำหน่ายในวันที่ 25 กันยายนนี้ ทางทีมงาน GameFever ได้มีโอกาสเข้าร่วมสัมภาษณ์ผู้ก่อตั้งค่ายพัฒนา Hangar 13 และผู้กำกับเกม Mafia: Definitive Edition คุณ Haden Blackman เพื่อพูดถึงรายละเอียดใหม่ๆ ที่จะถูกเพิ่มเข้าไปในเกม พร้อมกับทิศทางในอนาคตของซีรีส์ Mafia ในยุคคอนโซลใหม่ที่กำลังใกล้เข้ามานี้ ถือว่าห่างหายกันไปนานพอควรกับซีรีส์ Mafia ตั้งแต่ที่ภาค 3 วางจำหน่ายไปเมื่อปี 2016 ทำไมพวกคุณถึงคิดว่านี่เป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะหวนคืนสู่ซีรีส์นี้     HB: หลังจากที่เราพัฒนาเนื้อหา DLC ทั้งหมดของเกม Mafia III เสร็จหมดแล้ว ทางทีมก็เริ่มต้นกระบวนการพัฒนาเกมสำหรับเกม IP ใหม่ที่เราอยากจะสร้างต่อไป แต่ในขณะเดียวกัน เราก็รู้ว่ากว่าที่ไอเดียพื้นฐานของ IP ใหม่ที่ว่านั้นจะเริ่มเป็นรูปเป็นร่างชัดเจนขึ้นมาก็คงใช้เวลาอีกซักพัก และเราก็มีสมาชิกทีมพัฒนาฝ่ายออกแบบศิลป์และฝ่ายออกแบบคัตซีนที่จะไม่มีอะไรทำกันไปอีกพักใหญ่ๆ เราเลยเริ่มมานั่งคิดกันว่าจะสามารถทำอะไรไปพลางๆ ในขณะที่กำลังพัฒนาไอเดียของ IP ใหม่ และหนึ่งในข้อเสนอของสมาชิกในทีมหลายคนก็คือการรีเมคเกม Mafia ภาคแรก เพราะเทคโนดลยีในการสร้างเกมก็เปลี่ยนไปมากตั้งแต่ที่เกมดั้งเดิมวางจำหน่ายไป ซึ่งก็เปิดโอกาสให้เราสามารถเล่าเรื่องของเกมภาคแรกได้ในวิธีที่ดีขึ้น และทำให้โลกของเกมมีชีวิตมากขึ้น รวมไปถึงทำใหัการต่อสู้สนุกขึ้นด้วย เป็นความต้องการของสมาชิกทีมหลายคนที่อยู่กับซีรีส์นี้มาตั้งแต่ภาคแรก ที่อยากจะยกระดับเกมขึ้นมาให้เทียบเท่ามาตรฐานของเกมปัจจุบัน      นอกจากกราฟิกของเกม ที่ทำออกมาได้สวยงามวมมาตรฐานของเกมยุคใหม่ มีองค์ประกอบใดอีกบ้างที่คุณมองว่าถูกปรับปรุงมากที่สุดในเกมภาครีเมค     HB: สำหรับผมมันคงมีสองข้อหลักๆ อย่างแรกคือเรื่องของเกมเพลย์ ในเกม Mafia ดั้งเดิม ภารกิจทุกด่านในเกมจะมีเกมเพลย์เฉพาะของตัวเอง ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่เราพยายามเก็บรักษาเอาไว้ในภาคใหม่ และยังมีระบบเกมเพลย์แปลกๆ ให้ลองสัมผัสมากมายตามเนื้อเรื่อง แต่เราก็พัฒนาระบบการยิงปืนอันเป็นแก่นของเกมเพลย์ด้วย ให้มันสามารถสื่อความรู้สึกของการเป็นคนขับแท๊กซี่ที่ต้องผันตัวเป็นนักเลงจำเป็น เราใช้ฐานเกมเพลย์แบบ Cover Based (เกมยิงปืนที่เน้นการใช้ที่กำบัง) มาจาก Mafia III และปรับให้มันเข้ากับตัวละครหลักมากขึ้น คุณไม่ได้เป็นทหารผ่านศึกเหมือน Lincoln ในเกมภาค 3 แล้ว ฉะนั้นเราจึงอยากให้คุณจำเป็นต้องใจเย็นและวางแผนมากขึ้นว่าเมื่อไหร่ควรหลบเข้าที่กำบัง หรือเมื่อไหร่ควรโผล่ขึ้นมายิง เป็นองค์ประกอบที่ทีมพัฒนาใส่ใจมากๆ แน่นอนว่าด้วยยุคสมัยที่ต่างกัน อาวุธที่คุณใช้ก็จะต่างจาก Mafia III ด้วย ซึ่งก็เป็นรายละเอียดที่เราให้ความสำคัญ เพื่อสร้างความแตกต่างระหว่างเกม D.E. และ Mafia III       อีกข้อปรับปรุงใหญ่ในภาครีเมคคือด้านการเล่าเรื่อง และการแสดงโดยรวม เนื้อเรื่องของเกมในภาพกว้างจะยังเหมือนเดิม ภารกิจที่คุณเล่นและเหตุการณ์ใหญ่ๆ ในเนื้อเรื่องก็จะยังเหมือนภาคดั้งเดิม แต่เราก็อยากจะใช้เวลาไปกับการพัฒนาตัวละครอื่นๆ รอบตัวพระเอกด้วย เพื่อทำให้ผู้เล่นเข้าใจเหตุผลเบื้องหลังการกระทำของตัวเอก Tommy รวมไปถึงตัวละครรอบๆ ตัวเขาก็ถูกสำรวจอย่างลึกซึ้งมากขึ้น ทำให้การเล่าเรื่องโดยรวมถูกยกระดับขึ้นมาทัดเทียบกับมาตรฐานของเกมปัจจุบัน     พูดกันตามตรง ผมยังคงเชื่อว่าเกม Mafia ภาคดั้งเดิมถือเป็นเกมชั้นนำในแง่ของการเล่าเรื่องในยุคที่วางจำหน่าย แต่ตั้งแต่ตอนนั้นมา วงการเกมโดยรวมก็เปลี่ยนไปมาก และเราในฐานะผู้พัฒนาก็มีฝีมือในการเล่าเรื่องได้ดีกว่าสมัยก่อนเยอะ เราให้ความสำคัญกับการแสกนหน้านักแสดงและการ Motion Capture มาก ซึ่งทั้งหมดทำโดยเทคโนโลยีที่เราพัฒนาเองภายในค่าย รวมไปถึงระบบแสงสีใหม่ ที่พัฒนายิ่งกว่าในเกม Mafia III อีกด้วย     เกมภาครีเมคนี้จะมีความใกล้เคียงกับภาคดั้งเดิมแค่ไหน ผู้เล่นจะยังต้องระวังตำรวจจราจรอยู่หรือเปล่า     HB: ระบบตำรวจจราจรจะยังอยู่ในเกมแน่นอน ความตั้งใจอย่างหนึ่งของเราในการสร้างเกมนี้ คือการพยายามคงจิตวิญญาณของเกมภาคดั้งเดิมเอาไว้ให้ได้มากที่สุด หากมันมีอะไรที่เรารู้สึกว่าเราปรับปรุงให้ดีขึ้นไม่ได้ เราก็เลือกจะปล่อยให้มันเป็นเหมือนเดิมดีแล้ว ไม่งั้นก็ยกให้ผู้เล่นเป็นคนตัดสินใจว่าอยากให้มีระบบนั้นๆ ไหม เช่นถ้าคุณเล่นเกมด้วยค่าพื้นฐาน การต่อสู้ก็อาจจะท้าทายขึ้นมาหน่อย และบังคับให้คุณต้องใช้ความคิด แต่ถ้าคุณแค่อยากจะสัมผัสเนื้อเรื่อง มันก็มีระดับความยากที่สามารถปรับให้คุณผ่านการต่อสู้เหล่านั้นไปได้ง่ายๆ หรือถ้ากลับกัน คุณอยากให้เกมเป็นประสบการณ์ที่ท้าทายมากๆ ก็สามารถปรับได้เช่นเดียวกัน     ระบบตำรวจจราจรในเกมก็เช่นกัน ตำรวจอาจจะสามารถไล่จับคุณด้วยข้อหาทางจราจรได้ เช่นการขับเกินกำหนดความเร็ว หรือการไม่สนใจป้ายจราจร ซึ่งทั้งหมดนั้นยังมีอยู่ในเกม แต่จะเปิดหรือปิดก็ได้ตามใจผู้เล่น เพราะเราอยากให้ผู้เล่นได้รับประสบการณ์ Mafia ที่เขาต้องการมากกว่า     เกม Mafia ภาคดั้งเดิมมักจะถูกจดจำในฐานะเกมเน้นเนื้อเรื่องที่ค่อนข้างดำเนินไปเป็นเส้นตรง แม้ว่าตัวเกมเองจะเป็นแนว Open World ก็ตาม คุณได้ทำอะไรเพื่อกลบจุดอ่อนตรงนี้บ้างไหม หรือคุณไม่ได้มองว่ามันเป็นจุดอ่อนตั้งแต่ต้น     HB: ผมไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นจุดอ่อนที่ต้องกลบนะ เพราะความตั้งใจของเราตั้งแต่ต้นก็คือการคงไว้ซึ่งตัวตนของเกมดั้งเดิม ที่ก็มีลักษณะเป็นเกมเน้นเนื้อเรื่องที่ดำเนินไปเป็นเส้นตรงตามที่ว่า และเกม Definitive Edition ก็ยังเป็นแบบนั้น แน่นอนว่าคุณก็ยังสามารถสำรวจเมืองของเกมแบบโลกเปิดได้ถ้าคุณต้องการ แต่ทีมพัฒนาเลือกที่จะทุ่มเวลาและความตั้งใจลงไปกับการเล่าเนื้อเรื่องของเกมให้ดีที่สุดที่จะทำได้ และทำให้ภารกิจต่างๆ ของเกมมีชีวิตชีวามากกว่าเดิม ภารกิจทั้งหมดในเกมได้ถูกปรับปรุงไปอย่างมาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คนที่อยากสำรวจก็ยังสามารถทำได้ และมีความลับรอให้คุณค้นพบมากมายแน่นอน   คุณได้ใช้เกม Open World เกมอื่นๆ ที่วางจำหน่ายออกมาในช่วงไม่กี่ปีนี้เป็นแรงบันดาลใจสำหรับเกมภาค D.E. บ้างไหม นอกจากพื้นฐานเกมเพลย์ของ Mafia III ที่กล่าวมา     HB: สิ่งแรกที่เราทำในการหาแรงบันดาลใจสำหรับเกมภาค D.E. คือการมองกลับไปที่ข้อดีและข้อด้อยของเกมภาคก่อนๆ ที่ผ่านมาทั้งหมด และแน่นอนว่าเราก็พยายามจะทำให้ข้อดีมันดียิ่งขึ้นกว่าเดิม และพยายามกลบข้อด้อยจากเกมภาคก่อนๆ ไปด้วย แล้วเราก็ย้อนกลับไปดูภาพยนตร์ที่ถ่ายทำในยุคนั้น หรือที่นำเสนอภาพของยุคนั้นได้ดี แน่นอนว่าเรื่อง The Godfather ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจดั้งเดิมของเกมภาคแรกก็รวมอยู่ในนั้น เราต้องศึกษาว่าผู้คนในยุคนั้นแต่งตัวอย่างไร ใช้ภาษาอย่างไร เพราะเราอยากจะทำให้ทุกอย่างมันสมจริงตามยุคสมัยนั้นให้ได้มากที่สุด     แต่นอกเหนือไปจากแรงบันดาลใจจากสื่อแนวมาเฟียตรงๆ เราในฐานะเกมเมอร์ก็มองหาแรงบันดาลใจจากเกมที่เราเล่นเองด้วยเช่นกัน อย่างผมเป็นคนที่ชอบเกม Assassin’s Creed มากๆ ผมก็มักจะคอยสังเกติว่าพวกเขาใส่องค์ประกอบอะไรลงไปในเกมบ้าง ที่ทำให้เกมของพวกเขารู้สึกสมจริงตามยุคสมัยนั้นๆ หรือเกมอื่นๆ ทั้ง Bioshock และ Skyrim ที่ต่างก็เป็นเกมที่ยอดเยี่ยมในแบบของตัวเอง ที่เราใช้เป็นต้นแบบสำหรับองค์ประกอบใดองค์ปะกอบหนึ่งในเกม แม้ว่าตัวเกมเหล่านี้จะไม่เหมือนเกมที่เราพยายามจะสร้างกันอยู่เลยก็ตาม     ในเกมภาค 2 และ 3 มีการสอดใส่ Easter Egg จากเกมภาคแรกเข้าไปให้แฟนๆ ได้ค้นหากันมากมาย แล้วในเกมภาค D.E. จะยังมี Easter Egg จากเกมเหล่านี้อยู่ด้วยไหม แม้ว่าตามหลักแล้วจะเกิดขึ้นก่อนหน้าภาค 2 และ 3     HB: แน่นอนอยู่แล้ว จริงๆ แล้วข้อดีอย่างหนึ่งของการสร้างเกมนี้ คือการที่เราสามารถนำเกมทั้งสามภาคมาต่อเรียงเป็นไทม์ไลน์เดียวกันได้ ในเกมภาค D.E. จะมีการเอ่ยถึงทั้งตัวละครและตระกูลมาเฟียจากเกมภาค 2 และ 3 ให้ได้ยินอยู่เนืองๆ ผมไม่อยากสปอยอะไรมาก แต่ตอนจบของเกมภาค D.E. ก็จะสอดคล้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นในภาค 2 ด้วย ซึ่งผมคิดว่าแฟนๆ ของเกมภาค 2 น่าจะเข้าใจว่าผมพูดถึงอะไร เราอยากจะสร้างความรู้สึกว่าเรื่องราวของเกมทั้งสามภาคมันอยู่ในจักรวาลเดียวกัน ตระกูลมาเฟียจากเกมทั้งสามภาคต่างมีตัวตนอยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน ฉะนั้นเกมภาค D.E. จึงจะมีรายละเอียดเหล่านี้เยอะมากๆ และจะมี Easter Egg อื่นๆ ที่อาจจะไม่ได้อิงช่วงเวลาของเกมมากนัก เช่นเหล่าการ์ดบุหรี่ (Cigarette Card) ลายเจ้าพ่อมาเฟียชื่อดัง ไปจนถึงปกหนังสือการ์ตูนที่อาจจะแสเง Easter Egg ที่ไม่ได้อิงไทม์ไลน์ของเกม เช่นปกหนังสือการ์ตูนอันโปรดของผม ที่เป็นภาพตัวเอกของเกมทั้งสามภาค (Tommy, Vito, Lincoln) ออกบู๊พร้อมๆ กัน ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ในโลกของเกม แต่เราก็เชื่อว่าแฟนๆ น่าจะชอบกัน     เมือง Lost Heaven ของเกมสร้างมาอย่างสวมงามมากๆ แต่ผู้เล่นจะสามารถคาดหวังให้เมืองมีชีวิตชีวาได้แค่ไหน เหล่าผู้คนในเกมจะมีชีวิตประจำวันของตัวเองเหมือนในเกมอย่าง Red Dead Redemption 2 หรือไม่      HB: ต้องบอกว่าทีมของเรามุ่งเน้นไปที่การสร้างเกมเนื้อเรื่องในแบบเดียวกับเกมดั้งเดิมมากกว่า ซึ่งเรามองว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญมากกว่าสำหรับเกม Mafia แต่เราก็ยังพอมีระบบต่างๆ ในเกมที่อาจจะนำไปสู่เหตุการณ์เจ๋งๆ ที่ผู้เล่นไม่คาดฝันได้ อย่างเช่นระบบตำรวจ ที่ผู้เล่นอาจจะสามารถเล่นกับมันได้หลากหลายวิธี จนทำให้เกิดเป็นเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นโดยไม่ตั้งใจได้ เรายังคงอยากจะให้เมืองของเกมมันมีชีวิตชีวา และสื่อถึงยุคสมัยของเกมได้จริงๆ แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าว่ากันตามเนื้อเรื่อง Tommy (ตัวเอก) ก็ไม่ได้มีเวลามากพอจะมาทำตามคำขอของชาวเมืองงทั่วไปเช่นเดียวกัน เพราะเขาและแก๊งกำลังทำสงครามกับแก๊งคู่แข่งอยู่   ด้วยการมาถึงของยุคคอนโซลใหม่ในอีกไม่กี่เดือนนี้ ทางค่าย Hangar 13 มีแผนสำหรับอนาคตเตรียมไว้บ้างหรือยัง แล้วซีรีส์ Mafia จะมีภาคต่อไปให้เราเห็นอีกไหม     HB: เราตื่นเต้นเสมอเวลาที่มีคอนโซลใหม่ๆ ให้เราได้พัฒนาเกม เพราะฉะนั้นเราจึงรอไม่ไหวที่จะได้สัมผัสกับคอนโซลเหล่านี้ด้วยตัวเองเช่นกัน ทุกวันนี้ทีมพัฒนาของเราก็นั่งคุยเรื่องความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่จะมาพร้อมกับคอนโซลรุ่นใหม่เหล่านี้กันตลอดเวลา ในส่วนของค่าย Hangar 13 เรากำลังมุ่งมั่นกับการพัฒนาเกม Definitive Edition ให้เสร็จ เพื่อที่จะได้หันไปพัฒนาเกม IP ใหม่ที่เรากล่าวถึงไปอย่างเต็มที่ ซึ่งเราจะขอประกาศในภายหลัง      สำหรับเกมภาค D.E. นี้ ผมหวังว่าจะเป็นโอกาสให้แฟนๆ ที่ไม่เคยเล่นภาคแรกสามารถสัมผัสกับซีรีส์ Mafia ได้ และอาจจะทำให้พวกเขาสนใจจะกลับไปเล่นเกมภาค 3 ที่ตอนนี้เปลี่ยนไปมากจาก DLC ต่างๆ ที่เพิ่มเข้าไปหลังจากที่เกมวางจำหน่าย สำหรับอนาคตของซีรีส์ Mafia เรามีทีมพัฒนาหลายคนที่อยู่กับซีรีส์มาตั้งแต่เกมภาคแรก มั่นใจได้ว่าพวกเรากำลังมองหาเวลาเหมาะๆ ที่จะหวนสู่เนื้อเรื่องแนวมาเฟียที่เรารักอีกแน่นอน Mafia: Definitive Edition จะวางจำหน่ายในวันที่ 25 กันยายนนี้สำหรับ PS4, Xbox One, PC
24 Jul 2020
Mafia: Definitive Edition ปล่อยเกมเพลย์ 15 นาทีตามที่เคยสัญญาไว้!
เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว Hangar 13 ได้ประกาศเลื่อนวางจำหน่ายเกม Mafia: Definitive Edition เพื่อขัดเกลาและทำให้มันเป็นเกมที่ดีที่สุดของแฟนๆ ทั่วโลก อีกทั้งทางด้านผู้พัฒนาได้สัญญาว่าจะมีการปล่อยเกมเพลย์มาให้เราชมกันในวันที่ 22 กรกฎาคม ซึ่งก็คือวันนี้นี่เอง!     จากโพสต์ล่าสุดบน Twitter อย่างเป็นทางการของผู้พัฒนาได้ยืนยันแล้วว่าจะปล่อยเกมเพลย์ให้เราชมกันในวันนี้เวลา 22:00 น. แต่เหมือนว่าล่าสุดวิดีโอดังกล่าวจะหลุดออกมาก่อนแล้วในโลกอินเตอร์เน็ตครับ สามารถรับชมวิดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้     นี่คือเกม Mafia ที่ทำการรีเมคแบบเต็มรูปแบบที่ปรับปรุงกราฟิกและโมเดลตัวละครใหม่ พร้อมพัฒนาเอฟเฟกต์และแสงสีให้สวยงามยิ่งขึ้น โดยมาในชื่อว่า Mafia: Definitive Edition นอกจากนี้ผู้พัฒนายังกล่าวว่า Lost Heaven จะให้ความสนุกกับผู้เล่นมากกว่าเดิมอีกด้วย     Mafia: Definitive Edition มีกำหนดจะวางจำหน่ายในวันที่ 25 กันยายน บนเครื่อง Xbox One, PS4 และ PC           Credit: Gamingbolt
22 Jul 2020
Mafia: Definitive Edition ประกาศเลื่อนวันวางจำหน่ายเป็นวันที่ 25 กันยายน!
Mafia: Definitive Edition ที่มีกำหนดจะเปิดให้บริการในวันที่ 28 สิงหาคม นี้ได้เปลี่ยนกำหนดการเป็นวางจำหน่ายในวันที่ 25 กันยายน และจะมีการปล่อยตัวเกมเพลย์ในวันที่ 22 กรกฎาคม นี้แทน! ประกาศล่าสุดจาก Hangar 13 และผู้จัดจำหน่าย 2K Games กล่าวว่า แม้ว่าพวกเขาตั้งใจจะวางจำหน่ายเกมนี้ในวันที่ 28 สิงหาคม แต่ทว่าการจะทำให้ทุกอย่างเสร็จทันเวลาสำหรับวันปล่อยตัวเกมกลายเป็นความท้าทายที่หนักหน่วงเกินไป เนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 และพวกเขาไม่ต้องการลดคุณภาพของตัวเกมลงจึงตัดสินใจที่จะเลื่อนวันจำหน่ายออกไป พวกเขายังกล่าวว่าเกมนี้คือ "โปรเจคที่เต็มไปด้วย Passion" เหล่าผู้พัฒนาต้องการสร้าง Mafia แบบดั้งเดิมที่มีความคลาสสิกและทำให้มันเป็นเกมที่ดีที่สุดสำหรับแฟนๆ ทั่วโลก ถึงแม้ว่าเกมเพลย์จะมีกำหนดปล่อยออกมาในสัปดาห์หน้า แต่เรายังสามารถดูทีเซอร์สั้นๆ 15 วินาทีที่โชว์ความสวยงามของภาพภายในเกมได้ด้านล่างครับ ก็หวังว่าช่วงเวลาที่ผู้พัฒนาเลื่อนไปนี้จะมากพอสำหรับการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของเกมนี้และมอบเกมดีๆ ให้กับเราได้ครับ Mafia: Definitive Edition จะวางจำหน่ายให้กับเครื่อง Xbox One, PS4, PC และ Google Stadia Credit: Gamingbolt
08 Jul 2020
Mafia: Definitive Edition จะให้คุณเพลิดเพลินไปกับการขับขี่ยานพาหนะไปรอบๆ เมือง
เมื่อเราขับรถในโลก Open World เรามักจะไม่สนใจกฏจราจร และขับรถเล่นอย่างอิสระ แต่นี่ไม่ใช่กับเมือง Lost Heaven ของ Mafia ที่การขับขี่อย่างประมาทนั้นจะดึงดูดความสนใจของตำรวจครับ Mafia: Definitive Edition ของ Hangar 13 ที่กำลังจะมานั้นได้ทำการปรับแต่งวิธีการหลบหลีกตำรวจที่ลาดตระเวนตามท้องถนน นี่เป็นหนึ่งใน Features ที่ทำให้ Mafia นั้นเป็น Open-world ที่โดดเด่น คุณ Haden Blackman ประธานของ Hangar 13 ได้พูดคุยกับ USGamer เกี่ยวกับสตูดิโอที่พยายามจะสร้างเล่ห์เหลี่ยมต่างๆ ให้คุณเลือกที่จะเล่นได้ในเนื้อเรื่อง มีตัวเลือกความยากเพิ่มขึ้นสองสามโหมด รวมถึงโหมดการขับขี่ยานพาหนะ ที่จะมีโหมดให้คุณสลับระหว่างแบบ Simulator กับอะไรสักอย่างที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า หนึ่งในเป้าหมายของเกมนี้ที่ได้ทำการพัฒนาขึ้นใหม่คือการให้ผู้เล่นเพลิดเพลินไปกับการขับรถรอบเมือง และใช้เวลาส่วนใหญ่ในเกมไปกับมัน เรื่องการยิงยังได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยขึ้น เราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของเกมได้ในไม่ช้า เพราะ Mafia: Definitive Edition จะเปิดให้เล่นในวันที่ 28 สิงหาคมนี้! Credit: PCGAMER
25 Jun 2020
เผยตัวอย่างใหม่ Mafia: Definitive Edition ผู้พัฒนาย้ำ !! เกมนี้สร้างใหม่หมดตั้งแต่พื้นดินขึ้นไปเลย
เปิดตัวอย่างเซอร์ไพรส์มาก่อนหน้านี้สำหรับ Mafia: Definitive Edition ที่เป็นการนำเกมเมื่อปี 2004 มาทำการ Remake ด้วยขุมพลังกราฟิกใหม่ และล่าสุดในงาน PC Gamer Show ทางผู้พัฒนายังบอกอีกว่าในเมืองของเกมนี้ได้ถูกสร้างใหม่ทั้งหมดตั้งแต่พื้นขึ้นไปเลยก็ว่าได้ โดยคุณ Haden Blackman ประธานของทางผู้พัฒนา Hangar 13 ได้ออกมากล่าวเอาไว้ว่า "ทุกอย่างของเกมนี้ถูกสร้างใหม่ทั้งหมด รายละเอียดต่างๆ, Cinematic แม้กระทั่งเกมเพลย์ ก็ถูกทำใหม่ แต่เราก็รักษาสิ่งสำคัญของเกมดั้งเดิมเอาไว้ด้วย แต่อย่างอื่นถูกสร้างใหม่ทั้งหมดตั้งแต่พื้นดินลงมาเลย" Lost Heaven เป็นเมืองที่อ้างอิงมาจากเมือง Chicago ในยุค 1930s รวมถึงในเกม Mafia มีระบบการขับขี่สุดเอกลักษณ์ที่คุณจะต้องเชื่อฟังการจราจรบนถนน ตัวเกมได้ทำการ ReDesign เมืองนี้ใหม่เพื่อให้คุณสนุกกับการขับรถ ขยายถนนให้กว้างขึ้นและลดมุม 90 องศาเพื่อให้คุณสามารถแล่นไปตามมุมต่างๆ ได้ ในเมือง Lost Heaven จะมีคนเยอะมาก เพราะสตูดิโอได้นำความมีชีวิตชีวาการปฏิสัมพันธ์ต่างๆ ที่มีใน Mafia 3 ไปในสร้างใหม่ รวมถึงตัวเนื้อเรื่องงของเกมนี้จะถูกปรับแต่งเล็กน้อย ทั้งบทสนทนาก็จะถูกเพิ่มเติมเพื่อใช้ตอกย้ำความคิดที่ว่าคุณเป็นฝ่ายพ่ายแพ้สงครามระหว่างแฟมิลี่ โดย Mafia: Definitive Edition  มีกำหนดวางจำหน่ายใน 29 สิงหาคม 2020 สามารถ Pre-Order ได้แล้วในราคา 959 บาท Credit: PC Gamer
13 Jun 2020
Mafia: Definitive Edition จะมีเนื้อเรื่อง, Cutscene และเกมเพลย์ใหม่ทั้งหมด
พึ่งจะประกาศอย่างเป็นทางการแบบสดๆ ร้อนๆ สำหรับ Mafia ภาคแรกที่วางจำหน่ายในปี 2002 จะถูกทำการ Remake ใหม่ทั้งหมดโดยใช้ชื่อว่า Mafia: Definitive Edition และล่าสุดก็มีรายละเอียดของเกมเผยออกมาว่า ตัวเกมเวอร์ชั่นนี้จะใช้ Engine ใหม่ในการสร้าง ทุกอย่างจะถูกทำใหม่หมดทั้งดนตรีประกอบ รวมถึงเนื้อเรื่องใหม่ที่จะถูกใส่เข้ามา พร้อมกับเกมเพลย์ที่จะขึ้นอยู่ตามที่คุณเล่น โดย COO ของทีมพัฒนา Hangar 13 อย่างคุณ Haden Blackman ได้ออกมาเปิดเผยว่า "เกม Mafia ภาคแรกสร้างผลกระทบมาอย่างยาวนาน เกี่ยวกับการเล่าเรื่องราวบนวิดีโอเกมที่เข้มข้นจริงจังได้ และเรารู้ว่าแฟนๆ ยังคงเชิดชูมันมากแค่ไหน โดย 20 ปีหลังจากปล่อยภาคนี้ เรามีโอกาสที่น่าอัศจรรย์อีกครั้งในการแนะนำเกมที่เรารักต่อคนรุ่นใหม่ เปิดโอกาสให้แฟนๆ ได้รู้จักเรื่องราวของ Tommy (ตัวเอก) ด้วยการนำเสนอที่ทันสมัยรวมถึงองค์ประกอบเรื่องราวและคุณสมบัติการเล่นเกมแบบใหม่” Credit: VG247 สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!  
20 May 2020
Mafia 2 และ 3 Definitive Editions มาแล้ว ส่วนภาค 1 Remake มา ส.ค นี้!
Mafia นั้นเป็นอีกหนึ่งในซีรีส์ที่มีชื่อเสียงมากในวงการ ตัวเกมมีทั้งหมด 3 ภาค ซึ่งมันก็นานแล้วตั้งแต่ที่เกมภาค 3 วางจำหน่าย แต่ยังไม่มีวี่แววของเกมภาค 4 เลย อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเราจะยังไม่ได้เล่นภาคต่อของซีรีส์เร็วๆ นี้ แต่เจ้าของเกมภาค 2 กับ 3 วันนี้สามารถเข้าไปเล่นเวอร์ชั่น Remaster ของทั้ง 2 ได้ฟรีครับ! Mafia 2 Definitive Editions นะเป็นเวอร์ชั่น Remaster ในขณะที่ Mafia 3 Definitive Editions จะเพิ่มความละเอียดแบบ 4K เข้ามาเท่านั้น ผู้เล่นที่เป็นเจ้าของเกม Mafia 2 ใน Steam สามารถอัพเกรดเป็น Definitive Editions ได้ฟรี ส่วน Mafia 3 นั้นจะสามารถอัพเกรดเป็น Definitive Editions ได้ฟรีทุกแพลตฟอร์มครับ อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจก็คือจะมีเกม Mafia: Definitive Edition ซึ่งเป็นเวอร์ชั่น Remake ของตัวเกมภาคแรก วางจำหน่ายช่วงปลายเดือน สิงหาคม นี้ด้วย ซึ่งในตัวเกมเวอร์ชั่นนี้จะมีทั้ง Cutscenes , เกมเพลย์, แมคคานิคในการเล่น, และอื่นๆ อีกมากมายถูกทำขึ้นใหม่ โดยผู้พัฒนาก็ไดเ้มีการปล่อย Trailer เปิดตัวออกมาแล้วด้วย สามารถรับชมได้ข้างล่างนี้เลยครับ Credit : GamingBolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
20 May 2020